Skip to the content

ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป

การกำหนดเงื่อนไขการค้ามาตรฐานกำหนดโดยสมาคมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของอังกฤษ (BIFA) ฉบับประจำปี 2021 (อังกฤษ) © BIFA 2021

ลูกค้าโปรดทราบข้อกำหนดเฉพาะในเอกสารฉบับนี้ที่ไม่รวมหรือจำกัดความรับผิดของบริษัท รวมทั้งข้อที่กำหนดให้ลูกค้าชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทในบางกรณี และข้อที่จำกัดระยะเวลา และเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขการประกันสินค้า ได้แก่ข้อ 7, 8, 10, 11(A) และ 11(B) ข้อ 12 ถึง 14 ข้อ 18 ถึง 20 และข้อ 24 ถึง 27

หัวข้อทั้งหมดเป็นข้อบ่งชี้ และไม่เป็นส่วนหนึ่งของเงื่อนไขต่อไปนี้

คำจำกัดความและการนำไปใช้

  1. ในการกำหนดเงื่อนไขเหล่านี้ คำต่อไปนี้มีความหมายดังนี้:-

“บริษัท” หมายถึง สมาชิก BIFA ที่ทำการค้าภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้

“ผู้รับ” หมายถึง ผู้ที่ได้รับสินค้า

“ลูกค้า” หมายถึง ผู้ที่ข้อรับ หรือบริษัทดำเนินการในนามเพื่อดำเนินธุรกิจ หรือให้คำแนะนำ ข้อมูล หรือบริการ

“ตัวแทนโดยตรงด้านศุลกากร” หมายถึง บริษัทดำเนินการในนาม หรือเป็นตัวแทนของลูกค้า และ/หรือเจ้าของ กับกรมสรรพกร และศุลกากร ตามกฎหมายภาษี (การค้าข้ามพรมแดน) 2018 ข้อ 21.1 (a) หรือตามที่แก้ไข

“สินค้า” หมายถึง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใดก็ตามภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้

“บุคคล” หมายถึง บุคคลทั่วไป หรือ หน่วยงาน หรือ องค์กร

“LMAA” หมายถึง London Maritime Arbitrators Association หรือ สมาคมอนุญาโตตุลาการทางทะเลแห่งลอนดอน

“SDR” หมายถึง Special Drawing Rights หรือ สิทธิพิเศษถอนเงิน ที่กำหนดโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

“หน่วยขนส่ง” หมายถึง กล่องบรรจุ แท่นวางสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ รถพ่วง เรือบรรทุก หรืออุปกรณ์อื่นๆที่ใช้สำหรับ และเกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ

“เจ้าของ” หมายถึง เจ้าของสินค้า หรือ หน่วยขนส่ง รวมทั้งบุคคลอื่นที่สนใจหรืออาจสนใจในสินค้า

  1. (A) ตามย่อหน้าย่อย (B) ข้างล่าง กิจกรรมทั้งหมดของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ทั้งที่มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ก็ตาม จะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขเหล่านี้ (B) หากกฎหมายใดๆ ซึ่งรวมถึงข้อบังคับและคำสั่งบังคับใช้กับธุรกิจที่ดำเนินการ เงื่อนไขเหล่านี้สำหรับธุรกิจดังกล่าวจะถูกแปลความว่าอยู่ภายใต้กฎหมายดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในเงื่อนไขเหล่านี้ที่จะตีความว่าเป็นการยอมจำนนโดยบริษัท หรือเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบหรือหนี้สินใดๆภายใต้กฎหมายดังกล่าว และหากส่วนใดส่วนหนึ่งของเงื่อนไขเหล่านี้ไม่เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าวไม่ว่าในระดับใดก็ตาม ส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวจะถูกแทนที่ในระดับนั้น
  1. ลูกค้ารับรองว่าเป็นเจ้าของ หรือตัวแทนที่อำนาจของเจ้าของ และยอมรับเงื่อนไขเหล่านี้ รวมทั้งตัวแทนและในนามของเจ้าของ

บริษัท

  1. (A) ตามข้อ 11 และ 12 ด้านล่าง บริษัทมีสิทธิในการจัดหาบริการทั้งหมดในฐานะตัวแทน หรือให้บริการดังกล่าวเป็นหลัก (B) บริษัทสงวนสิทธิ์ในการเลือกวิธีการ เส้นทาง และกระบวนการทั้งหมดในการให้บริการทางธุรกิจและเป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้
  2. เมื่อบริษัททำสัญญาเป็นผู้ให้บริการหลัก บริษัทจะมีอิสระเต็มที่ในการให้บริการ หรือทำสัญญาช่วงกับทีมงานเพื่อให้บริการทั้งหมดหรือบางส่วน
  3. (A) เมื่อบริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทนในนามลูกค้า บริษัทมีสิทธิ์ และลูกค้ามอบอำนาจอย่างชัดแจ้งให้บริการในการจัดทำสัญญาทั้งหมดในนามลูกค้าตามความจำเป็น หรือเพื่อบรรลุความประสงค์ของลูกค้า และสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขการค้าของคู่สัญญาที่จัดทำขึ้น (B) ภายใน 14 วันที่ได้รับการแจ้งจากลูกค้า บริษัทจะแสดงหลักฐานสัญญาในฐานะตัวแทนของลูกค้า ในกรณีใดก็ตามที่บริษัทผิดสัญญาตามข้อกำหนดในการแสดงหลักฐาน บริษัทจะตกอยู่ในภาระสัญญากับลูกค้าในฐานะผู้ดำเนินการตามคำสั่งลูกค้า
  4. ในการจัดการกับ HMRC ในฐานะตัวแทนของลูกค้าในอังกฤษ และ/หรือ เจ้าของ บริษัทจะได้รับการแต่งตั้ง หรือได้รับอำนาจในการดำเนินการเป็นตัวแทนโดยตรงด้านศุลกากร เพื่อสำแดงศุลกากรในนามของลูกค้า (รายหลัก) ในฐานะ “ตัวแทนโดยตรง”
  5. (A) ตามหัวข้อย่อย (B) ด้านล่างนี้ บริษัท:

(i) มีภาระผูกพันทั่วไปเกี่ยวกับสินค้าและเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่อยู่ในครอบครอง ดูแล หรือควบคุมเกี่ยวกับจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องชำระให้กับลูกค้าและ/หรือเจ้าของในบัญชี ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสินค้าที่เป็นเจ้าของหรือให้บริการโดยหรือในนามของบริษัทแก่ลูกค้าหรือเจ้าของ ค่าธรรมเนียมการจัดเก็บจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปสำหรับสินค้าใดที่รักษาไว้ตามภาระผูกพัน

(ii) จะได้รับสิทธิโดยจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ลูกค้าอย่างน้อย 21 วันเพื่อทำการขาย หรือกำจัด หรือจัดการกับสินค้าหรือเอกสารดังกล่าว ในฐานะตัวแทนและออกค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าและนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระเงินตามจำนวนเงินดังกล่าว

(iii) เมื่อจัดทำบัญชีกับลูกค้า หากมียอดคงเหลืออยู่หลังจากการชำระเงินให้กับบริษัท โดยรวมต้นทุนขายและ/หรือการกำจัดและ/หรือการจัดการ บริษัทจะพ้นจากการับผิดชอบในเรื่องที่เกี่ยวกับสินค้าหรือเอกสารดังกล่าว

(B) เมื่อสินค้ามีความเป็นไปได้ว่าจะพังหรือเสื่อมสภาพ บริษัทมีสิทธิในการขาย หรือจำหน่าย หรือจัดการกับสินค้า โดยจะมีค่าใช้จ่ายของบริษัทเกิดขึ้นทันที โดยบริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนที่สมเหตุสมผลและแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับความประสงค์ที่จะขายหรือกำจัดสินค้าก่อนที่จะดำเนินการดังกล่าว

  1. บริษัทมีสิทธิในการเก็บและรับเงินค่านายหน้า ค่าคอมมิชชั่น เบี้ยเลี้ยง และค่าตอบแทนอื่น ๆ ตามธรรมเนียมที่ต้องเก็บ หรือชำระให้แก่ผู้ขนส่งสินค้า
  2. (A) หากลูกค้า รับสินค้า หรือเจ้าของสินค้าไม่มารับตามเวลาและสถานที่ที่กำหนดโดยบริษัท บริษัทจะมีสิทธิจัดเก็บสินค้าหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสินค้านั้นไว้โดยลูกค้าหรือผู้รับสินค้า หรือเจ้าของจะรับความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งบริษัทจะหมดภาระในการรับความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ ความรับผิดของบริษัท (หากมี) ที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บดังกล่าวจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยบริษัทอันเป็นผลมาจากการจัดส่งไม่สำเร็จจะถือเป็นผลประโยชน์ของบริษัท และค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะต้องชำระโดยลูกค้าเมื่อได้รับแจ้ง

(B) บริษัทจะมีสิทธิรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของลูกค้าในการกำจัดหรือจัดการกับ (โดยการขาย หรือวิธีการอื่นตามสมควรในทุกกรณี): -

(i) หลังจากแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 21 วัน หรือ (ในกรณีที่ไม่สามารถติดต่อลูกค้าได้ และใช้ความพยายามตามสมควรในการติดต่อคู่สัญญาอย่างสมเหตุสมผลโดยบริษัทให้มีส่วนได้เสียในสินค้า) โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สินค้าใด ๆ ที่บริษัทถือครองไว้เป็นเวลา 60 วันและไม่สามารถจัดส่งได้ตามคำสั่ง และ

(ii) โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สินค้าใดก็ตามที่พัง เสื่อมสภาพ หรือเปลี่ยนแปลงสภาพ หรืออาจก่อให้เกิดความสูญเสียหรือความเสียหายต่อบริษัทหรือบุคคลที่สาม หรือฝ่าฝืน กฎหมายหรือข้อบังคับใด ๆ ที่บังคับใช้

  1. (A) การประกันภัยจะไม่ได้รับผลกระทบ เว้นแต่จะเป็นไปตามคำแนะนำที่ระบุไว้อย่างชัดเจนจากลูกค้าที่ให้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และได้รับการยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัทเช่นกัน ทั้งนี้ การประกันภัยทั้งหมดที่ดำเนินการโดยบริษัทจะอยู่ภายใต้ข้อยกเว้น และเงื่อนไขตามปกติของนโยบายของผู้รับประกัน หรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายรับความเสี่ยง เว้นแต่จะตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นอย่างอื่น บริษัทจะไม่อยู่ภายใต้ภาระผูกพันใดก็ตามในการทำประกันแยกต่างหากสำหรับสินค้า แต่อาจประกาศไว้ในนโยบายเปิดหรือนโยบายทั่วไปที่ถือโดยบริษัท

(B) ตราบเท่าที่บริษัทตกลงทำประกันภัย บริษัทจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียว และข้อจำกัดความรับผิดภายใต้ข้อ 26(A) ของเงื่อนไขเหล่านี้จะไม่นำไปใช้กับภาระผูกพันของบริษัทตามข้อ 11

  1. (A) ยกเว้นในกรณีที่มีข้อตกลงพิเศษที่จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนหน้านี้โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับอนุญาต หรือเป็นไปตามเงื่อนไขของเอกสารที่ลงนามโดยบริษัท คำสั่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือปล่อยสินค้าในกรณีที่กำหนด (เช่น ตามที่บริษัทยอมรับแต่ไม่จำกัดเพียง การชำระเงินหรือการยอมจำนนต่อเอกสารเฉพาะ) โดยที่บริษัทต้องว่าจ้างบุคคลที่สามเพื่อให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ เพื่อเป็นตัวแทนของลูกค้าเท่านั้น

(B) ในกรณีที่บริษัทยอมรับคำสั่งจากลูกค้าในการเก็บค่าระวาง ค่าอากร ค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จากผู้รับสินค้า หรือบุคคลอื่นใด เมื่อได้รับหลักฐานที่เหมาะสมจากบริษัท และในกรณีที่ไม่มีหลักฐานการชำระเงิน (ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม) จากผู้รับสินค้าหรือบุคคลอื่น ลูกค้าจะยังคงเป็นผู้รับผิดชอบค่าขนส่ง ค่าอากร ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆนั้น

(C) บริษัทจะไม่รับผิดใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงดังกล่าวตามที่อ้างถึงภายใต้ข้อย่อย (A) และ (B) เว้นแต่ข้อตกลงดังกล่าวจะทำเป็นลายลักษณ์อักษร และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ความรับผิดของบริษัทในส่วนที่เกี่ยวกับการดำเนินการหรือการจัดเตรียมการดำเนินการคำสั่งดังกล่าวจะต้องไม่เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้ในข้อ 26(A) (ii) ของเงื่อนไขเหล่านี้

  1. คำแนะนำและข้อมูลไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม บริษัทจัดทำขึ้นเพื่อลูกค้าเท่านั้น ลูกค้าจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทจากการสูญเสียและความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการส่งต่อคำแนะนำหรือข้อมูลดังกล่าวไปยังบุคคลที่สาม
  2. หากไม่มีการตกลงล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับอนุญาต บริษัทจะไม่รับหรือจัดการกับสินค้าที่ต้องจัดการขนส่ง หรือรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะด้วยลักษณะที่เสี่ยงต่อการโจรกรรม หรืออื่นๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ทองคำแท่ง เงินตรา หลักทรัพย์ อัญมณี เครื่องประดับ ของมีค่า โบราณวัตถุ รูปภาพ อัฐิ สิ่งมีชีวิต พืช อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าส่งมอบสินค้าดังกล่าวให้กับบริษัท หรือทำให้บริษัทต้องจัดการสินค้าดังกล่าว หากไม่มีการตกลงกันล่วงหน้า บริษัทจะไม่มีความรับผิดสินค้า ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม
  3. เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทได้ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร บริษัทจะไม่รับหรือจัดการกับสินค้าที่เป็นอันตรายหรืออาจสร้างความเสียหาย หรือสินค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อสินค้าอื่นๆ หากมีการตอบรับสินค้าเป็นกรณีพิเศษ แต่ในภายหลัง บริษัทมีความเห็นว่าอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสินค้า ทรัพย์สิน ชีวิต หรือสุขอนามัย บริษัทจะติดต่อลูกค้าเพื่อขอให้นำสินค้าดังกล่าวออก หรือดำเนินการตามสมควร โดยลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
  4. หากมีตัวเลือกขอบเขตหรือระดับของความรับผิดของบริษัทและ/หรือบุคคลที่สาม จะไม่มีการแจ้งมูลค่าและ/หรือถือเสมือนว่าได้แจ้งแล้ว ยกเว้นภายใต้การจัดการพิเศษที่จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนหน้านี้โดย เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจตามที่อ้างถึงในข้อ 26(D)

ลูกค้า

  1. ลูกค้าให้การรับรองว่า:

(A) (i) สิ่งต่อไปนี้ (จัดทำโดยหรือในนามของลูกค้า) ครบถ้วนและถูกต้อง: คำอธิบายและรายละเอียดของสินค้า ข้อมูลที่เตรียม (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ลักษณะ น้ำหนักรวม มวลรวม (รวมถึงมวลรวมจริงที่ผ่านการตรวจสอบแล้วของตู้คอนเทนเนอร์ที่มีบรรจุภัณฑ์และสินค้า) และขนาดสินค้า) และคำอธิบาย รวมทั้งรายละเอียดการบริการ ที่กำหนดโดยหรือในนามของลูกค้าว่าครบถ้วนและถูกต้อง และ

(ii) หน่วยขนส่งและ/หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่จัดหาโดยลูกค้าที่สัมพันธ์กับการบริการที่ต้องกันนั้นตรงตามวัตถุประสงค์

(B) สินค้าทั้งหมดได้รับการเตรียม บรรจุ จัดเก็บ ติดฉลาก และ/หรือทำเครื่องหมายอย่างเหมาะสม และสมควร และการเตรียม การบรรจุ การจัดเก็บ การติดฉลาก และการทำเครื่องหมายตรงกับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสินค้า และคุณลักษณะของสินค้า

(C) ในกรณีที่บริษัทได้รับสินค้าจากลูกค้าที่เก็บไว้บนหน่วยขนส่งแล้ว หน่วยขนส่งนั้นอยู่ในสภาพดีและเหมาะสมสำหรับการขนส่งไปยังปลายทางของสินค้า

(D) ในกรณีที่บริษัทจัดหาหน่วยขนส่งให้กับลูกค้า หน่วยขนส่งอยู่ในสภาพดีและเหมาะสมสำหรับการขนส่งไปยังปลายทางที่ต้องการของสินค้าที่บรรทุก

  1. ไม่กระทบต่อสิทธิตามข้อ 15 ที่ลูกค้าส่งมอบให้กับบริษัท หรือทำให้บริษัทต้องจัดการสินค้าที่มีลักษณะที่เป็นอันตรายหรือสร้างความเสียหาย สินค้าที่อาจรบกวน หรือสินค้าที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เสื่อมเสียหรือส่งผลกระทบต่อสินค้าอื่น ไม่ว่าจะแจ้งแก่ต่อบริษัทหรือไม่ก็ตาม ลูกค้าต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากสินค้าดังกล่าว และจะชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทตามค่าปรับ การเรียกร้อง ความเสียหาย ต้นทุน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
  2. ลูกค้ารับรองว่าจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายจากผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานของบริษัทที่เกี่ยวกับการบริการภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ และหากมีกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ควรมีการเรียกร้องเพื่อชดใช้ค่าเสียหายต่อบริษัทตามผลกระทบที่เกิดขึ้น
  3. ลูกค้าจะไม่สร้างความเสียหายและเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทจาก

(A) ความรับผิด ความสูญเสีย ความเสียหาย ต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมถึง อากรทั้งหมด ภาษี การเก็บภาษี การเรียกเก็บ เงินมัดจำ และค่าใช้จ่ายในลักษณะใดๆ ก็ตามที่เรียกเก็บโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสินค้า) ที่เกิดขึ้น ของบริษัทที่ดำเนินการตามคำแนะนำของลูกค้า หรือเกิดขึ้นจากการละเมิดการรับประกันที่มีอยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้ หรือจากความประมาทของลูกค้า

(B) โดยไม่ส่งผลต่อข้อย่อย (A) ข้างต้น ความรับผิดที่เกิดขึ้นโดยบริษัท เมื่อบริษัทต้องรับผิดต่อบุคคลอื่นใดก็ตามด้วยสาเหตุจากการดำเนินการตามคำสั่งของลูกค้า

(C) การเรียกร้อง ค่าใช้จ่ายทั้งหมด และโดยใครก็ตามที่ทำหรือต้องการเกินกว่าความรับผิดของบริษัทภายใต้ข้อกำหนดของเงื่อนไขเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกร้อง ค่าใช้จ่าย ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการละเมิดสัญญา ความประมาท หรือการละเมิดหน้าที่ของบริษัท พนักงาน ผู้รับเหมาช่วง หรือตัวแทน

(D) การเรียกร้องทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัท

  1. (A) การได้รับชำระเงินเต็มจำนวนตรงเวลาจากลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญต่อการบริหารธุรกิจและดำเนินกิจการของบริษัทตามภาระผูกพันที่มีต่อลูกค้า ดังนั้น ลูกค้าต้องชำระเงินสดแก่บริษัท หรือรูปแบบอื่นตามที่ตกลง เป็นจำนวนทั้งหมดเมื่อครบกำหนดภายในทันทัน โดยไม่มีการลด หรือขยายเวลาบัญชีออกไปจากการเรียกร้อง การเรียกร้องกลับ หรือหักกลบลบหนี้ ระยะเวลามีความสำคัญอย่างยิ่งในการชำระเงินทั้งหมดหรือบางส่วนจากลูกค้าให้แก่บริษัท

(B) ในกรณีที่ลูกค้าทำการชำระเงินทั้งหมดไม่สำเร็จ และไม่ตรงเวลาแก่บริษัท (ตามข้อ 21 (A) ข้างต้น)

(i) ยอดเงินอื่นๆทั้งหมดที่ได้รับ และ/หรือ ต้องชำระให้แก่บริษัท (แต่สำหรับข้อ 21 (B) ที่ลูกค้ายังไม่ชำระ หรือตามที่กำหนดระยะเวลาการชำระไว้ หรืออื่นๆ) จะต้องชำระเต็มจำนวนโดยทันที และ

(ii) ยอดเงินใดก็ตามที่ต้องชำระเงินสดโดยทันทีให้แก่บริษัท หรือตามที่ตกลงกันไว้ โดยไม่มีการลด หรือขยายเวลาบัญชีออกไปจากการเรียกร้อง การเรียกร้องกลับ หรือหักกลบลบหนี้

(C) การละเว้นการชดเชยจากการฝ่าฝืนข้อกำหนด 21 (A) และ (B) ข้างต้น โดยบริษัท จะเป็นการยกเว้น หรือทำให้ลูกค้าไม่ต้องรับผิดชอบภายใต้ข้อ 21 (A) และ (B) ขณะที่เงื่อนไขเหล่านี้ยังนำมาใช้อยู่ นอกจากในกรณีที่ตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจของบริษัทและลูกค้า

(D) กฎหมายการชำระหนี้พาณิชย์ล่าช้า (ดอกเบี้ย) ตามที่แก้ไข จะนำมาใช้กับทุกยอดเงินที่ลูกค้าต้องชำระ

  1. เมื่อเกิดความรับผิดจากการเรียกร้องทั่วไปเกี่ยวกับสินค้า ลูกค้าจะต้องให้หลักประกันแก่บริษัท หรือฝ่ายอื่นๆที่บริษัทแต่งตั้ง ในรูปแบบที่บริษัทยอมรับ

ความรับผิดและข้อจำกัด

  1. บริษัทจะปฏิบัติตามหน้าที่ในระดับที่สมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเรื่องการดูแล ความระมัดระวัง ทักษะและการติดสิน
  2. บริษัทจะได้รับการบรรเทาความรับผิดสำหรับความสูญเสีย หรือความเสียหาย ในกรณีที่ความสูญเสีย หรือความเสียหายดังกล่าวเกิดจาก:

(A) การประท้วง การนัดหยุดงาน ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถหลีกเลี่ยงเหตุดังกล่าวได้ โดยใช้ความระมัดระวังอย่างสมเหตุสมผลแล้ว หรือ

(B) สาเหตุหรือเหตุการณ์ใดก็ตามที่บริษัทหลีกเลี่ยงไม่ได้ และป้องกันผลที่ตามมาไม่ได้ โดยใช้ความระมัดระวังอย่างสมเหตุสมผลแล้ว

  1. ยกเว้นในกรณีการตกลงเป็นพิเศษล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ได้รับมอบอำนาจ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการปฏิบัติตามวันที่สินค้าส่งออกและมาถึงตามที่ตกลงกันไว้
  2. (A) ตามข้อ 2 (B) และ 11 (B) ข้างต้น และข้อย่อย (D) ด้านล่าง ความรับผิดของบริษัทที่เกิดขึ้น และไม่สามารถอธิบายสาเหตุความสูญเสีย หรือความเสียหายได้ จะต้องไม่เกิน:

(i) (a) มูลค่าความสูญเสีย หรือความเสียหาย หรือ (b) ยอดรวมในอัตรา 2 SDR ต่อกิโลของน้ำหนักสินค้าทั้งหมดที่สูญหาย หรือเสียหาย โดยเป็นไปตามกรณีที่น้อยกว่า

(ii) ตามข้อ (iii) ข้างล่าง ในกรณีการเรียกร้องอื่นๆ: (a) มูลค่าของสินค้าตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องระหว่างบริษัทและลูกค้า หรือ (b) กรณีที่กำหนดน้ำหนักได้ ยอดรวมคำนวณในอัตรา 2 SDR ต่อกิโลของน้ำหนักสินค้าตามธุรกรรมดังกล่าว หรือ (c) 75,000 SDR ต่อหนึ่งธุรกรรม เป็นไปตามกรณีที่น้อยกว่า

(iii) ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาด และ/หรือการละเว้น หรือข้อผิดพลาด และ/หรือการละเว้นที่เกิดขึ้นซ้ำ หรือต่อเนื่องจากข้อผิดพลาด และ/หรือการละเว้นที่เกิดขึ้นเดิม (a) ความสูญเสียที่เกิดขึ้น หรือ (b) 75,000 SDR รวมกันต่อหนึ่งปีการค้า เริ่มจากเวลาที่เกิดข้อผิดพลาด และ/หรือการละเว้นที่เกิดขึ้นเดิม เป็นไปตามกรณีที่น้อยกว่า ตามวัตถุประสงค์ของข้อ 26 (A) มูลค่าสินค้าจะเป็นมูลค่าตามจริง หรือราคาที่จะเป็นเมื่อจัดส่ง มูลค่าสิทธิพิเศษถอนเงินจะคำนวณตามวันที่ได้รับการเรียกร้องจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร

(B) ตามข้อ 2 (B) ข้างต้น และข้อย่อย (D) ด้านล่าง ความรับผิดของบริษัทที่มีต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายอันเกิดจากการส่งมอบ หรือการเตรียมการส่งมอบสินค้าไม่สำเร็จ ในเวลาที่สมควร หรือ (หรือมีข้อตกลงพิเศษภายใต้ข้อ 25) ให้ปฏิบัติตามวันที่ส่งออก หรือวันที่สินค้ามาถึงตามที่ตกลงไว้ มูลค่ารวมจะต้องไม่เกินกว่าสองเท่าของค่าบริการของบริษัทที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาดังกล่าว ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม

(C) ในการสูญเสีย หรือเสียหายตามที่ได้อ้างถึงในข้อย่อย (B) และข้อ 2 (B) ข้างต้น และข้อย่อย (D) ข้างล่าง บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียทางอ้อม หรือความสูญเสียสืบเนื่อง (แต่ไม่จำกัดเพียง) การสูญกำไร การเสียตลาด หรือผลที่ตามมาเรื่องความล่าช้า หรือการเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม

(D) ในการอธิบายที่ระบุไว้อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรที่แจ้งสินค้าและมูลค่าที่ได้รับจากลูค้า และบริษัทตอบรับ บริษัทอาจรับผิดชอบจากข้อจำกัดที่ได้กำหนดไว้ในข้อย่อย (A) ถึงข้อ (C) ข้างต้น หากลูกค้าตกลงชำระค่าบริการเพิ่มเติมแก่บริษัทในการยอมรับผิดชอบดังกล่าว โดยรายละเอียดค่าบริการเพิ่มเติมของบริษัทจะแจ้งให้ทราบหากลูกค้าประสงค์

  1. (A) การเรียกร้องใดก็ตามของลูกค้าที่มีต่อบริษัทที่เกิดจากการให้ริการ หรือบริษัทรับหน้าที่ให้บริการ จะต้องแจ้งให้บริษัททราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ลูกค้ารับทราบ หรืออาจรับทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้นที่ส่งผลต่อการเรียกร้องดังกล่าว ทั้งนี้ การเรียกร้องใดก็ตามหากไม่แจ้งล่วงหน้าตามขั้นตอน จึงเป็นโมฆะและและถูกยกเลิก ยกเว้นในกรณีที่ลูกค้าพิสูจน์ได้ว่าสามารถดำเนินการตามข้อจำกัดเวลาดังกล่าวได้ และได้ทำการเรียกร้องโดยเร็วที่สุดอย่างสุดความสามารถแล้ว

(B) โดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขในย่อหน้าย่อย (A) ข้างต้น บริษัทจะไม่รับผิดไม่ว่าในกรณีใด และอย่างไรก็ตามที่เกิดจากการให้บริการแก่ลูกค้า หรือบริษัทรับหน้าที่ให้บริการ เว้นแต่ในกรณีที่มีการฟ้องร้อง และแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่บริษัทภายในระยะเวลาเก้าเดือนนับจากวันที่เกิดเหตุ หรือจะดำเนินคดีกับบริษัท

ขอบเขตอำนาจกฎหมายและกฎหมาย

  1. (A) เงื่อนไขเหล่านี้ รวมทั้งการปฏิบัติ หรือสัญญาใดก็ตามที่นำมาใช้จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายอังกฤษ

(B) ข้อพิพาทใดก็ตามที่เกิดจากการปฏิบัติหรือสัญญาที่เป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนด (C) ด้านล่างนี้ และอยู่ภายใต้เขตอำนาจตามกฎหมายของศาลอังกฤษ

(C) โดยไม่คำนึงถึงข้อ (B) ข้างต้น บริษัทมีสิทธิ์ในการขอให้ระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ

(D) บริษัทอาจดำเนินการตามสิทธิภายใต้ข้อ (C) ข้างต้นเพื่อเริ่มอนุญาโตตุลาการต่อกรณีพิพาท หรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ลูกค้าว่าจะทำการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ

(E) ในกรณีที่บริษัทดำเนินการตามสิทธิภายใต้ข้อ ( C) ข้างต้น อนุญาตโตตุลาการจะดำเนินการ ดังนี้:

(i) ในกรณีที่ผู้ร้องเรียกเงินน้อยกว่า 400,000 ปอนด์ ไม่รวมดอกเบี้ย (หรือจำนวนอื่นๆที่บริษัทและลูกค้าตกลงร่วมกัน และเป็นไปตามข้อ (iii) ด้านล่าง) การระงับข้อพิพาทจะใช้อนุญาโตตุลาการสามรายจากศาล และการอนุญาโตตุลาการจะเป็นไปตามกระบวนการ LMAA Intermediate Claims Procedure โดยเริ่มตั้งแต่วันที่เริ่มอนุญาโตตุลาการ

(ii) ในกรณีที่ผู้ร้องเรียกเงินน้อยกว่า 100,000 ปอนด์ ไม่รวมดอกเบี้ย (หรือจำนวนอื่นๆที่บริษัทและลูกค้าตกลงร่วมกัน และเป็นไปตามข้อ (iii) ด้านล่าง) การระงับข้อพิพาทจะใช้อนุญาโตตุลาการเพียงรายเดียว และการอนุญาโตตุลาการจะเป็นไปตามกระบวนการ LMAA Intermediate Claims Procedure โดยเริ่มตั้งแต่วันที่เริ่มอนุญาโตตุลาการ

(iii) ในกรณีใดก็ตามที่กระบวนการของ LMAA ที่อ้างอิงไว้ในข้อ (i) และ/หรือ (ii) ถูกนำไปใช้ จะต้องใช้อนุญาโตตุลาการสามราย ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของ LMAA นับจากวันที่เริ่มกระบวนการอนุญาโตตุลาการ