ก่อนทำการแพ็ค ตรวจสอบรายการสิ่งของต้องห้ามในการนำเข้าประเทศและภูมิภาคต่างๆ
ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า พัสดุบางส่วนได้ถูกเปลี่ยนเส้นทางการจัดส่งสืบเนื่องจากปัญหาความตึงเครียดระหว่างประเทศในทะเลแดง ซึ่งก่อให้เกิดความล่าช้าในการขนส่ง หากพัสดุของท่านได้รับผลกระทบ เราจะติดต่อท่านในทันที กรุณาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก บล็อกบทความ ของเรา
เนื้อหา
- ข้อมูลเกี่ยวกับออสเตรเลีย
- ข้อดีและข้อเสียในการย้ายประเทศ
- การยื่นขอวีซ่า
- ค่าวีซ่าออสเตรเลีย
- ค่าครองชีพในออสเตรเลีย
- เมืองน่าอยู่ที่สุดในออสเตรเลีย
- เปรียบเทียบการเช่าและการซื้อบ้าน
- การเปิดบัญชีธนาคารในออสเตรเลีย
- การหางานในออสเตรเลีย
- ระบบการศึกษาออสเตรเลีย
- การเลือกประกันสุขภาพ
- ระบบขนส่งสาธารณะออสเตรเลีย
- วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย
- การส่งของไปออสเตรเลีย
- แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
คำอธิบายการย้ายไปอาศัยในออสเตรเลีย
การย้ายไปออสเตรเลีย เป็นความฝันของชาวต่างชาติจำนวนมากที่กำลังมองหาการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในประเทศที่อากาศดี ออสเตรเลียเป็นประเทศในเครือจักรภาพที่มีความงดงามทางธรรมชาติมากมาย รวมทั้งคนท้องถิ่นที่เป็นมิตร และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาประเภทที่เงียบสงบ หรือเมืองที่พลุกพล่านในฝั่งตะวันออก ดินแดนแลนด์ดาวน์อันเดอร์แห่งนี้ตอบโจทย์คุณ!
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโปรแกรมรับชาวต่างชาติที่มีฝีมือ หรือ Skilled Migration Program เป็นโอกาสที่ดีมากในการรับประกันงานในออสเตรเลีย ระหว่างปี 2023 – 2024 รัฐบาลออสเตรเลียจะออกวีซ่าให้แก่แรงงานฝีมือกว่า 190,000 ราย – ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19
คู่มือฉบับนี้ครอบคลุมทุกเนื้อหาที่คุณควรทราบเพื่อย้ายไปอยู่ออสเตรเลียได้สำเร็จ ตั้งแต่การยื่นขอวีซ่า ตลอดจนการหางานทำ เลือกทำเลอาศัย รวมทั้งการรับมือการความแตกต่างทางวัฒนธรรม เป็นต้น เรามาเริ่มกันเลย!
วีซ่าแรงงานฝีมือออสเตรเลียมีทั้งหมดเท่าไหร่
ระหว่างปี 2023-2024 ออสเตรเลียจะออกวีซ่าทำงาน
190,000 วีซ่า
แหล่งข้อมูล: Australia Department of Home Affairs
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการอาศัยในออสเตรเลีย
ข้อมูลเกี่ยวกับออสเตรเลีย
รัฐ | 6 |
มณฑล | 10 |
เมืองหลวง | แคนเบอร์รา |
ประชากร | 25.8M |
เมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด | ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ (5.2M) |
ภาษาราชการ | อังกฤษ |
พื้นที่ | 2.9M mi² (7.6M km²) - 6th ใหญ่ที่สุดในโลก |
สกุลเงิน | ออสเตรเลียดอลลาร์ (AUD) ($) |
รูปแบบรัฐบาล | รัฐสภากลางโดยมีราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
ผลิตภัณฑ์มวลรวม (ทั้งหมด) | $1.7 trillion - 20th ในโลก |
ผลิตภัณฑ์มวลรวม (ต่อประชากร) | $64,674 - 21st ในโลก |
ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI) | 0.951 - 5th ในโลก |
(แหล่งที่มา: hdr.undp.org, IMF.org, worldbank.org, abs.gov.au, ga.gov.au, timeanddate.com)
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาประเภทที่เงียบสงบ หรือเมืองที่พลุกพล่านในฝั่งตะวันออก ดินแดนแลนด์ดาวน์อันเดอร์แห่งนี้ตอบโจทย์คุณ!
การแบ่งเขตเวลาในออสเตรเลีย
เวลาฤดูร้อน หรือ เวลาออมแสง (Daylight Saving Time) ใช้ในเขตอาณาของรัฐนิวเซาท์เวลส์ มณฑลนครหลวง วิกตอเรีย เซาท์ออสเตรเลีย และทัสมาเนีย โดยเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม จนถึงวันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน
อย่างไรก็ตามในนอร์ทเทิร์นเทร์ริทอรี ควีนส์แลนด์ และเวสเทิร์นออสเตรเลียไม่ใช้ระบบ DST
ข้อดีและข้อเสียในการย้ายประเทศไปออสเตรเลียมีอะไรบ้าง
ออสเตรเลียเป็นประเทศแห่งผู้อพยพที่รับชาวต่างชาติจากทั่วโลกมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ผู้ซึ่งกำลังมองหาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตมีทั้งข้อดีและข้อเสียให้พิจารณาก่อนที่คุณจะ ย้ายไปออสเตรเลีย
คุณจะได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้น!:
ค่าจ้างโดยทั่วไปจะสูงกว่าประเทศอื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีทักษะในสาขาที่เป็นที่ต้องการ อาทิเช่น วิศวกรโยธา นักสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยในปี 2023 เงินเดือนเฉลี่ยของออสเตรเลียอยู่ที่เดือนละ 7,570 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอัตราการว่างงานที่ต่ำที่ 3.7%
คนท้องถิ่นยินดีต้อนรับคุณ:
ด้วยประวัติศาสตร์แห่งการย้ายถิ่นฐานเป็นเวลาหลายร้อยปี ชาวออสเตรเลียขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นมิตร ใช้ชีวิตเรียบง่าย และมีอารมณ์ขัน
คุณภาพชีวิตที่สูง:
ด้วยระบบเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต เงินเดือนที่สูง มหาวิทยาลัยและโรงเรียนระดับโลก รวมทั้งรับสาธารณสุขแห่งชาติที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรฐานการใช้ชีวิตสูงที่สุดในโลก โดยได้รับการจัดอยู่ที่อันดับของ ดัชนีการพัฒนามนุษย์ประจำปี 2023
การผจญภัยเริ่มตั้งแต่หน้าบ้านคุณ:
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ที่พื้นที่กลางประเทศ (Outback) หรือโต้คลื่นที่ริมชายฝั่ง ชมความงามทางธรรมชาติ และภูเขาหินน้อยใหญ่ ออสเตรเลียคือประเทศที่พร้อมมอบประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ดีให้แก่คุณ
นอกจากนี้ ยังมีประเทศใกล้เคียงที่เดินทางได้ง่ายอย่างนิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย และปาปัวนิวกินี
หน้าร้อนที่ร้อนสุดๆ!:
ฤดูร้อนของออสเตรเลียอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมและกุมภาพันธ์ (ตรงกันข้ามกับประเทศแถบซีกโลกเหนือ) โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 29 องศาเซลเซียส ชาวออสซี่นิยมย่างบาร์บีคิวริมหาดในวันคริสต์มาส!
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียของประเทศที่มีแสงแดดตลอดทั้งปีแห่งนี้ เนื่องจาก ผู้คนสองในสามที่อาศัยในออสเตรเลียเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังก่อนอายุ 70 ปี ดังนั้น ควรทาผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ หากใช้เวลากลางแจ้งนาน ดื่มน้ำมากๆ สวมหมวก และนั่งพักในที่ร่มหากเป็นไปได้
ออสเตรเลียอยู่ไกลมากๆ:
เนื่องจากเที่ยวบินที่ยาวนานและค่าใช้จ่ายสูง ตำแหน่งที่ตั้งของออสเตรเลียที่ห่างไกลทำให้คุณอยากกลับไปเยี่ยมบ้านบ่อยขึ้น โดยประเทศนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้มีสนามบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศกว่า 613 แห่ง ทำให้สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆได้ง่าย
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาสูง:
ตลาดบ้านในออสเตรเลียมีราคาสูง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างเมลเบิร์นและซิดนีย์ สำหรับเมืองที่ราคาถูกกว่า (ซึ่งวัฒนธรรมและโอกาสต่างๆจะน้อยลงด้วย!) ประกอบด้วยเมืองเพิร์ธ แอดิเลด และนิวแคสเซิล
วิธีการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย: ทุกเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับข้อกำหนด
สำหรับการอาศัยและทำงานในออสเตรเลีย อันดับแรก คุณต้องยื่นขอวีซ่า โดยแจ้งรายละเอียดระยะเวลา และเหตุผลในการย้ายประเทศของคุณ ขั้นตอนวีซ่าออสเตรเลียมีความซับซ้อน อาจใช้เวลาหลายเดือน ถึงหลายปีในการรอ โดยวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้วีซ่า คือ การมีทักษะที่เป็นที่ต้องการ หรือมีสมาชิกครอบครัว คู่สมรส หรือนายจ้างออสเตรเลียเป็นสปอนเซอร์
วีซ่าแรงงานฝีมือและสปอนเซอร์โดยชาวออสเตรเลีย
วีซ่าออสเตรเลียมีมากกว่า 120 ประเภท ดังนั้น การศึกษาให้มากที่สุดก่อนยื่นขอจึงเป็นสิ่งสำคัญ การตอบรับวีซ่าของเจ้าหน้าที่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิเช่น ประเทศต้นกำเนิดของคุณ ประสบการณ์การทำงาน อายุ ขนาดครอบครัว และทักษะภาษาอังกฤษ
โอกาสที่ดีของคุณในการรับสถานะพักพิง คือ ผ่าน โปรแกรม Skilled Migration สืบเนื่องจากปัญหา การขาดแคลนแรงงานทักษะในตลาดงานของออสเตรเลีย จึงมีการกำหนดโควตาวีซ่าประเภทนี้จำหนวนมากสำหรับแรงงานที่มีประสบการณ์ในสาขาที่เป็นที่ต้องการ นับตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ในแต่ละปีมีการเพิ่มจำนวนวีซ่าแรงงานฝีมือ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีในการยื่นขอ!
หากคุณมีนายจ้างออสเตรเลียที่ยื่นขอวีซ่าให้คุณได้ คุณจะมีโอกาสในการได้วีซ่าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ งานที่กำลังเป็นที่ต้องการ ได้แก่ พยาบาล วิศวกรซอฟต์แวร์ ผู้ดูแล ผู้จัดการก่อสร้าง ช่างเครื่อง ครู และเชฟ
อีกหนึ่งวิธีในการย้ายไปออสเตรเลียถาวร คือ การที่มีสมาชิกในครอบครัวอาศัยอยู่ในออสเตรเลียอยู่แล้ว มีวีซ่ามากกว่าสามสิบเจ็ดประเภทที่อนุญาตให้คุณย้ายมาอยู่กับครอบครัว ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว วีซ่าครอบครัวประกอบด้วย วีซ่าคู่สมรส และวีซ่าเพื่อแต่งงาน ตลอดจนวีซ่าญาติที่ต้องพึ่งพา และวีซ่าผู้ดูแล จะต้องมีวีซ่าสักประเภทที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ
วิธีการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย
คุณตัดสินใจแล้วใช่ไหมที่จะย้ายไปออสเตรเลีย ได้เวลายื่นขอวีซ่าแล้ว! เริ่มด้วยการเข้าเว็บไซต์ Go to the Australian Home Affairs website และเลือกประเภทวีซ่า อาทิเช่น “ทำงาน” “ศึกษาต่อ” “พำนักถาวร” เป็นต้น จากนั้น ทำแบบสอบถามสั้นๆที่จะนำคุณไปยังประเภทวีซ่าที่เหมาะสมตามระยะเวลาที่คุณต้องการเข้าประเทศ
เมื่อคุณเลือกประเภทวีซ่าได้แล้ว คุณจะเห็นรายละเอียดทั้งหมด อาทิเช่น ค่าสมัคร ระยะเวลาดำเนินการ หลักฐานที่อยู่และหลักฐานประจำตัวที่ต้องใช้ รวมทั้งข้อกำหนดคุณสมบัติอย่าง ทักษะภาษาอังกฤษ สุขภาพของคุณ ต่อไป เลือก “สมัครวีซ่า” เว็บไซต์จะนำคุณไปยังหน้าลงทะเบียน ImmiAccount เพื่อเริ่มขั้นตอนการสมัคร
หากคุณยื่นขอวีซ่าแรงงานฝีมือ ตรวจสอบว่าคุณมีประสบการณ์การทำงานตามที่ได้ระบุไว้ใน รายการอาชีพฝีมือแรงงาน จากนั้นทำการ ประเมินทักษะ ซึ่งวีซ่าประเภทนี้จะประเภทโดยใช้ระบบคะแนน: ยิ่งตำแหน่งงานของคุณเป็นที่ต้องการมากเท่าไหร่ คุณจะได้คะแนนมากขึ้นเท่านั้น จากนั้น ส่ง Expression of Interest (EOI) หากคุณมีคะแนนเพียงพอ คุณจะได้รับเชิญให้ทำการยื่นขอวีซ่า
วีซ่าออสเตรเลียประเภทอื่น
ถึงแม้ว่าวีซ่าแรงงานฝีมือและสปอนเซอร์สมาชิกครอบครัวจะเป็นวีซ่าที่มีโอกาสได้มากที่สุด แต่ยังมีวีซ่าประเภทอื่นเช่นกัน:
- วีซ่านักเรียน: คุณสามารถอาศัยในออสเตรเลียได้สูงสุดถึงห้าปี โดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาการศึกษาของคุณ ซึ่งคุณสามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้อย่างอิสระ และทำงานได้สูงสุด 48 ชั่วโมงต่อสองสัปดาห์ระหว่างเวลาเรียนของคุณ ทั้งนี้ คุณต้องผ่านข้อกำหนดด้านภาษาอังกฤษ มีประกันสุขภาพ และคุณสมบัติตามที่กำหนด จากนั้น สมัครวีซ่าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์รัฐบาลออสเตรเลีย ทั้งภายในและนอกประเทศ
- วีซ่าทำงาน: ออสเตรเลียมี วีซ่าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานถึง 43 ประเภท ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวสำหรับลูกเรือ เจ้าพนักงานรัฐชาวต่างชาติ หรือสอนภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสของคุณในการได้รับการตอบรับ ระบุประสบการณ์การทำงานในช่อง รายการทักษะที่ขาดแคลนของออสเตรเลีย
- วีซ่าเยี่ยมเยียน: สำหรับท่องเที่ยว หรือการเดินทางเพื่อธุรกิจที่ไม่ได้ค่าตอบแทน อาทิเช่น การเข้าร่วมประชุม หรือออกงาน ออสเตรเลียมี วีซ่าเยี่ยมเยียนกว่าสิบเจ็ดประเภท ซึ่งสามารถอยู่ในประเทศได้ตั้งแต่ 72 ชั่วโมง ถึง 10 ปี และเข้าออกได้หลายครั้ง
- วีซ่าถาวรสำหรับผู้เกษียณ: หากคุณเป็นผู้พำนักระยะยาวในออสเตรเลีย และมีบุตรตามกฎหมายที่เป็นพลเมืองออสเตรเลีย หรือมีถิ่นพำนัก คุณมีสองตัวเลือก: a วีซ่าพ่อแม่ และ วีซ่าพ่อแม่ลงทุนสมทบ ซึ่งมีข้อกำหนดเรื่องอายุ สุขภาพ คุณลักษณะ และสถานะวีซ่าปัจจุบัน
วีซ่าออสเตรเลียมีระยะเวลาดำเนินการนานแค่ไหน
รายการด้านล่างนี้แสดงระยะเวลาที่คุณจะได้ข่าวเกี่ยวกับวีซ่าที่ยื่นขอ ทั้งนี้ ระยะเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง และขึ้นอยู่กับปริมาณงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่
กรุณาตรวจสอบเว็บไซต์รัฐบาลออสเตรเลีย Australian Government - Department of Home Affairs เพื่อรับข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมด
- วีซ่าถาวรแรงงานฝีมือ: 5 เดือน
- วีซ่าชั่วคราวแรงงานฝีมือ: 11 วัน
- วีซ่าพาร์ทเนอร์ (ขั้นตอนแรก): 7 เดือน
- วีซ่านักเรียน: 24 วัน
- วีซ่าเยี่ยมเยียน: 1 วัน
- วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน: 1 วัน
ปรึกษาตัวแทนด้านการย้ายไปออสเตรเลียที่ขึ้นทะเบียน
เนื่องจากการเข้าประเทศออสเตรเลียมีความยุ่งยาก การจ้างตัวแทนด้านการย้ายไปออสเตรเลียที่ขึ้นทะเบียน เป็นอีกตัวเลือกที่น่าพิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่คุณในแต่ละขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า รวมทั้งคุณสมบัติของคุณ โอกาสในการตอบรับ และระยะเวลารอ
การใช้บริการตัวแทนจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่ต้องอุทธรณ์หากวีซ่าถูกปฏิเสธ หรือต้องแนะนำตัวเลือกอื่นในการเข้าประเทศ ค่าบริการขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบุคคล และประเภทวีซ่าที่คุณยื่น ดังนั้น ทำการหาข้อมูลให้ละเอียด กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวแทนที่คุณติดต่อได้ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงาน Australian Office of Migration Registration Authority (MARA) เนื่องจากการได้รับคำปรึกษาที่ผิดจะส่งผลเสียอย่างยิ่ง
ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานเข้าออสเตรเลีย
คุณไม่ใช่ผู้ย้ายถิ่นฐานรายเดียวในออสเตรเลีย เพราะมีเกือบทุกชาติจากทั่วโลกที่ย้ายมา
จำนวนชาวต่างชาติในออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายทศวรรษ ในปี 1948 มีชาวต่างชาติ 10.4% ของประชากร และเพิ่มเป็น 29.5% ในปี 2022
เกือบหนึ่งในสามของชาวออสซี่เกิดที่ประเทศอื่น!
แหล่งที่มา: Australian Bureau of Statistics
วีซ่าออสเตรเลียมีระยะเวลาที่ใช้ได้นานแค่ไหน
ระยะเวลาที่คุณอยู่ในออสเตรเลียได้ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าที่คุณได้รับ ต่อไปนี้ คือ ระยะเวลาของวีซ่าออสเตรเลียยอดนิยม:
- วีซ่าเยี่ยมเยียน (อาทิเช่น วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ เป็นต้น): โดยทั่วไปมีระยะเวลาสาม หก หรือสิบสองเดือน แต่อาจขึ้นอยู่กับรายละเอียดของแต่ละบุคคล และวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ
- วีซ่านักเรียน: ขึ้นอยู่กับระยะเวลาหลักสูตรที่เรียน ตั้งแต่หลายเดือนจนถึงสูงสุดห้าปี
- วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน: มีอายุ 12 เดือนนับตั้งแต่วันที่คุณเข้าออสเตรเลีย อย่างไรก็ตาม คุณสามารถยื่นขอขยายระยะเวลาได้สูงสุดสามปี หากคุณทำงานในบางสาขาเฉพาะ
- วีซ่าแรงงานฝีมือ: อายุวีซ่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประเภทย่อยของวีซ่าของคุณ โดยวีซ่าแรงงานฝีมือบางประเภทให้สถานะพำนักถาวร หากอยู่ในประเภทตามระยะเวลาที่กำหนด
- วีซ่าครอบครัวและพาร์ทเนอร์: อาจมีการกำหนดระยะเวลาหรือเป็นวีซ่าถาวร ขึ้นอยู่กับประเภทย่อยของวีซ่า และลักษณะความสัมพันธ์ของคุณ
คุณต้องตรวจสอบรายละเอียดเฉพาะของประเภทวีซ่าย่อยที่คุณสนใจ ก่อนทำการสมัคร
เข้าเว็บไซต์ทางการของ Department of Home Affairs เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด
ค่าวีซ่าออสเตรเลียในปี 2024 อยู่ที่เท่าไหร่
ด้านล่างนี้เป็นวีซ่าออสเตรเลียที่มีการยื่นขอมากที่สุด รวมทั้งค่าวีซ่า อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ Australian Home Affairs ก่อนทำการสมัคร เนื่องจากราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง และรายละเอียดของคุณอาจทำให้ได้รับการยกเว้นค่าวีซ่า
วีซ่าระยะสั้น
- วีซ่า eVisitor (ประเภทย่อย 651): AU$0
- วีซ่ารับการรักษาพยาบาล (ประเภทย่อย 602): AU$360
- วีซ่าเข้าร่วมกิจกรรมชั่วคราว (ประเภทย่อย 408): AU$405
- วีซ่าเยี่ยมเยียน – วีซ่าธุรกิจ (ประเภทย่อย 600): AU$190
- วีซ่าทำงานและท่องเที่ยว (ประเภทย่อย 417): AU$635
วีซ่าครอบครัว
- วีซ่าญาติที่ต้องพึ่งพา (ประเภทย่อย 114): AU$4,990
- วีซ่าบุตร (ประเภทย่อย 101): AU$3,055
- วีซ่าครอบครัวพลเมืองนิวซีแลนด์ (ชั่วคราว) (ประเภทย่อย 416): AU$420
- วีซ่าพ่อแม่ (ประเภทย่อย 103): AU$4,990
- วีซ่าพาร์ทเนอร์ (ประเภทย่อย 820/801): AU$8,850
วีซ่าธุรกิจ
- วีซ่าธุรกิจด้านนวัตกรรมและการลงทุน (ถาวร) (ประเภทย่อย 888): AU$3,310
- วีซ่าธุรกิจด้านนวัตกรรมและการลงทุน (ชั่วคราว) (ประเภทย่อย 188): AU$9,450
- วีซ่าเจ้าของธุรกิจ (ประเภทย่อย 890): AU$2,810
- วีซ่าผู้มีความสามารถทางธุรกิจ (ประเภทย่อย 132): AU$7,855
- วีซ่านักลงทุน (ประเภทย่อย 891): AU$2,810
วีซ่าแรงงานฝีมือ
- วีซ่าผู้มีความสามารถระดับโลก (ประเภทย่อย 858): AU$4,710
- วีซ่าพำนักถาวร (แรงงานฝีมือประจำภูมิภาค) (ประเภทย่อย 191) – สัดส่วนฮ่องกง: AU$4,640
- วีซ่าพำนักถาวร (แรงงานฝีมือประจำภูมิภาค) (ประเภทย่อย 191) – สัดส่วนจากภูมิภาค: AU$475
- วีซ่าแรงงานฝีมืออิสระ (ประเภทย่อย 189): AU$4,640
- วีซ่าทำงานชั่วคราว (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางพำนักระยะสั้น) (ประเภทย่อย 400): AU$405
วีซ่านายจ้าง
- วีซ่าแผนการแต่งตั้งเป็นนายจ้าง (ประเภทย่อย 186): AU$4,640
- วีซ่าแผนย้ายถิ่นฐานโดยมีสปอนเซอร์ส่วนภูมิภาค (ประเภทย่อย 187): AU$4,640
- วีซ่านายจ้างฝีมือโดยมีสปอนเซอร์ส่วนภูมิภาค (ชั่วคราว) (ประเภทย่อย 494): AU$4,640
- วีซ่าแรงงานผีมืออิสระ (ประเภทย่อย 189): AU$4,640
- วีซ่าฝีมือจัดตั้ง (ประเภทย่อย 190): AU$4,640
วีซ่านักเรียน
- วีซ่านักเรียน (ประเภทย่อย 500) – นักเรียนทุกประเภท: AU$710
- วีซ่านักเรียน (ประเภทย่อย 500) – ภาคการต่างประเทศและกลาโหม: AU$0
- วีซ่านักเรียน (ประเภทย่อย 500) – ภาคการวิจัยหลังสำเร็จการศึกษา: AU$710
- วีซ่านักศึกษาชั่วคราว (ประเภทย่อย 485) – แผนการทำงานของนักศึกษา: AU$1,895
การซื้อบ้านเป็นภาระที่ใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อคุณเพิ่งย้ายมาประเทศใหม่ ลองเช่าบ้านดูก่อน หลังจากนั้น คุณอาจตัดสินใจลองอาศัยในเมืองอื่นของออสเตรเลีย หรือคุณอาจคิดถึงบ้านและย้ายกลับ
ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการย้ายไปออสเตรเลีย
ถึงแม้ว่าจำนวนเงินที่คุณต้องใช้นการย้ายไปออสเตรเลียจะขึ้นอยู่กับรายละเอียดส่วนบุคคล แต่มีปัจจัยต่างๆที่ต้องนำมารวมในงบประมาณ อาทิเช่น ค่าบริการช่วยเหลือการย้ายถิ่นฐาน ค่าบริการขนย้ายระหว่างประเทศ บัตรโดยสารเครื่องบิน และที่พักชั่วคราว
เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับวีซ่าไว้ที่ด้านล่างนี้:
ค่าวีซ่า:
อาจมีค่าธรรมเนียมวีซ่าที่เกี่ยวข้อง โดยขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าที่คุณเลือก โดยวีซ่า แผนการย้ายถิ่นฐานโดยภาคท้องถิ่นสนับสนุน จะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ วีซ่าธุรกิจประเภทนวัตกรรมและการลงทุน (ชั่วคราว) อาจมีค่าใช้จ่ายถึง 10,000 ดอลลาร์
วีซ่าทำงานและวีซ่าแรงงานฝีมือของออสเตรเลียยังมีวีซ่าประเภทย่อยอีกกว่ายี่สิบสองประเภท โดยมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกัน อาทิเช่น ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน ค่าสมัครเพิ่มเติม ค่าสมัครชั่วคราว และค่าบริการสมัครที่ไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตหากคุณไม่ได้ยื่นผ่านออนไลน์
บัตรโดยสารเครื่องบิน:
ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไปออสเตรเลียขึ้นอยู่กับต้นทางขาออกของคุณ ช่วงเวลาของปี ชั้นโดยสาร และสายการบินที่ใช้บริการ ทั้งนี้ เที่ยวบินระหว่างประเทศมีราคาตั้งแต่หลายร้อยถึงหลายพันดอลลาร์ ใช้บริการเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาเพื่อรับราคาที่ดีที่สุด อาทิ Skyscanner และ Flights Finder
ที่พักชั่วคราว:
การซื้อบ้านเป็นภาระที่ใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อคุณเพิ่งย้ายมาประเทศใหม่ ลองเช่าบ้านดูก่อน หลังจากนั้น คุณอาจตัดสินใจลองอาศัยในเมืองอื่นของออสเตรเลีย หรือคุณอาจคิดถึงบ้านและย้ายกลับ
เปรียบเทียบราคาจากเว็บไซต์ Real Estate, Rent หรือ Property ค่าที่พักอาศัยแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับพื้นที่ และประเภท โดยที่เมลเบิร์นมีราคาถูกที่สุด ค่าเช่าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 507 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อสัปดาห์ และแคนเบอร์รามีราคาแพงที่สุดอยู่ที่ 690 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
การกำหนดค่าใช้จ่าย:
ค่าครองชีพรายเดือนประกอบด้วย ค่าอุปโภคบริโภค ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายประจำวันอื่นๆซึ่งแตกต่างกันในแต่ละเมืองและภูมิภาค เตรียมเงินสดให้พอสำหรับการฝึกอบรมงาน ค่าใช้จ่ายในบ้านที่ไม่คาดคิด ค่าเช่ารถ และค่างานราชการทั่วไป
รายได้ขั้นต่ำในออสเตรเลียอยู่ที่เท่าไหร่?
สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 21 ปี รายได้ขั้นต่ำอยู่ที่
AU$23.23 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง
แหล่งข้อมูล: Wage Indicator
การใช้ชีวิตในออสเตรเลียมีค่าใช้จ่ายสูงหรือไม่?
ถึงแม้ว่าค่าครองชีพโดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับเมืองและภูมิภาคที่คุณย้ายไปอยู่ การใช้ชีวิตของคุณ และขนาดครอบครัว แต่การใช้ชีวิตในออสเตรเลียมีค่าใช้จ่ายสูง อย่างไรก็ตาม ด้วยเงินเดือนที่สูง รวมทั้งค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 23.23 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (12.23 ปอนด์) ต่อชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไป จัดว่าสูงที่สุดอันดับสองของโลก!
ก่อนทำการตัดสินใจ หาข้อมูลภูมิภาคที่คุณสนใจจะย้ายไป วางแผนรายได้และรายจ่ายเพื่อกำหนดงบประมาณ รัฐบาลออสเตรเลียมีประมาณการค่าครองชีพ ที่แสดงไว้ในเว็บไซต์
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลทางการเงินที่สำคัญที่คุณควรพิจารณาก่อนย้ายไปออสเตรเลีย:
- ที่พักอาศัย: ค่าเช่าและค่าอสังหาริมทรัพย์แตกต่างกันในแต่ละเมืองและภูมิภาค ซิดนีย์และแคนเบอร์ราราคาสูงกว่าเพิร์ธและแอดิเลด ค่าบ้านโดยเฉลี่ยในออสเตรเลียอยู่ที่ 912,700 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะนี้ค่าเช่าอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์
- สาธารณูปโภค: ทำการหาข้อมูลค่าสาธารณูปโภคของคุณ อาทิเช่น ไฟฟ้า แก๊ส และน้ำ โดยใช้บริการเว็บไซต์เปรียบเทียบอย่าง Compare the Market และเว็บไซต์ของรัฐบาลออสเตรเลีย Energy Made Easy
- การโดยสาร: จากข้อมูลของ finder.com ชาวออสเตรเลียจ่ายค่าเดินทางโดยเฉลี่ย 122 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 5,388 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับลูกจ้างทำงานเต็มเวลา ทั้งนี้ บริการขนส่งสาธารณะราคาถูกกว่าการขับรถ อีกทั้งยังเป็นการดีต่อสิ่งแวดล้อม!
- คอาหาร: จากข้อมูลของฐานข้อมูลการใช้ชีวิตที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Numbeo ค่าอาหารสามคอร์สสำหรับสองคนในร้านอาหารระดับกลางของออสเตรเลียอยู่ที่ 120 ดอลลาร์ นมหนึ่งลิตร และขนมปังหนึ่งแถวราคา 6.64 ดอลลาร์ในซิดนีย์ 6.23 ดอลลาร์ในเมลเบิร์น 6.93 ในเพิร์ธ และ 6.86 ในแอดิเลด
- การดูแลสุขภาพ: ระบบสาธารณสุขของออสเตรเลียที่ชื่อว่า Medicare ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลฟรี หรือค่าใช้จ่ายต่ำ ผู้มีถิ่นพำนักจำนวนมากเลือกใช้บริการประกันสุขภาพเสริมของเอกชน ซึ่งมีราคาประมาณ 166 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อคน
ค่าครองชีพในออสเตรเลีย*
ต่อไปนี้เป็นค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับความบันเทิงและของใช้ประจำวันในออสเตรเลีย:
แหล่งข้อมูล: Numbeo - Cost of Living in Australia
*ราคาประจำปี 2024
คุณต้องมีเงินเท่าไหร่ในบัญชีธนาคารเพื่อย้ายไปออสเตรเลีย?
ในขณะนี้ไม่มีการกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำหรือสูงสุดที่ต้องใช้ในการยื่นขอวีซ่า อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ศุลกากรออสเตรเลียจะขอหลักฐานเงินจำนวน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียจากธนาคารเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจะสามารถดูแลตัวเองได้ในช่วงสัปดาห์และเดือนแรกๆในประเทศ
เมืองที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในออสเตรเลียที่สุด: 9 เมืองที่คุณจะตกหลุมรัก!
ออสเตรเลียเป็นประเทศขนาดใหญ่ มีพื้นฐานจำนวนมาก ทัศนียภาพที่สวยงาม รวมทั้งเมืองมหานครที่พลุกพล่าน โดยเป็นประเทศที่ใหญ่อันดับหกของโลก! เมื่อคุณได้รับอนุมัติวีซ่าแล้ว คุณสามารถอาศัยได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นใกล้หาดในโกลด์โคส หรือพื้นที่กลางทะเลทราย
ไม่ว่าคุณจะพิจารณาจากสภาพอากาศ การศึกษา อัตราการเกิดอาชญากรรม หรือค่าครองชีพ เราได้รวบรวมเมืองยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ ทั้งคนรุ่นใหม่ ครอบครัว และราคาที่จ่ายได้
เมืองที่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่สุดในออสเตรเลียสำหรับวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
1. ซิดนีย์, นิวเซาท์เวลส์
เมืองริมอ่าว (The Harbour City) แห่งนี้มี Sydney Opera House ที่มีชื่อเสียง และวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนที่ไหน เป็นเมืองมหานครอย่างแท้จริง โดยประชากรกว่าครึ่งเป็นชาวต่างชาติ มีอาหารที่หลากหลาย และกิจกรรมกลางแจ้งมากมายให้เลือก ทั้งการโต้คลื่นที่ Bondi Beach หรือเที่ยวชม Blue Mountains
ค่าครองชีพในซิดนีย์สูงกว่าเมืองใหญ่อื่นๆในออสเตรเลีย เนื่องค่าที่พักอาศัยที่แพง อย่างไรก็ตาม ซิดนีย์ได้รับการจัดอยู่ในอันดับที่ 5 ของเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดย World Population Review ประจำปี 2024 และมีสถาบันการศึกษาระดับสูง อาทิเช่น University of Sydney และ UNSW Sydney
ประชากร: 5.29M
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 48.6%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$108,004
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$3,356
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$1.3M
ค่าครองชีพ: 12% สูงกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การเงิน ไอที การท่องเที่ยว และการก่อสร้าง
เดือนที่อุ่นที่สุด: มกราคม (เฉลี่ยสูงสุด 26 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 19 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 17 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 8 องศา)
ออสเตรเลียเป็นประเทศขนาดใหญ่ มีพื้นฐานจำนวนมาก ทัศนียภาพที่สวยงาม รวมทั้งเมืองมหานครที่พลุกพล่าน โดยเป็นประเทศที่ใหญ่อันดับหกของโลก!
2. เมลเบิร์น, วิคตอเรีย
เมลเบิร์น คือ เมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย มีชุมชนชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมทั้งโด่งดังด้านศิลปะ อีกทั้งยังมีเทศกาลและกิจกรรมต่างๆมากมาย มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ย่านที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น Fitzroy และ St Kilda รวมทั้งอาหารนานาชาติ
เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูง ในขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะ และกิจกรรมสันทนาการมีราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดอยู่ลำดับที่ 10 โดย the World Population Review ประจำปี 2024.
ประชากร: 5.03M
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 37.5%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$98,852
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,403
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$820,000
ค่าครองชีพ: 0.3% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการผลิต
เดือนที่อุ่นที่สุด: กุมภาพันธ์ (เฉลี่ยสูงสุด 27 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 16 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 14 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 7 องศา)
3. บริสเบน, ควีนส์แลนด์
บริสเบนเป็นหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ ชาวต่างชาติจะได้พบกับการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายภายใต้สภาพอากาศเขตร้อน มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย พร้อมคนท้องถิ่นที่เป็นมิตร พื้นที่ริมแม่น้ำของเมือง วัฒนธรรมที่โดดเด่น และย่านที่น่าอยู่ทำให้ชาวบริสเบนมีความสุขกับความงามตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ ค่าครองชีพของเมืองบริสเบนยังต่ำกว่าซิดนีย์และเมลเบิร์น และมีสถานบันการศึกษาระดับโลกถึงสองแห่ง ได้แก่ University of Queensland และ Queensland University of Technology จากข้อมูลของหน่วยงาน Crime Statistics Agency แห่งรัฐวิคตอเรีย ย่านที่ปลอดภัยที่สุดของบริสเบน ได้แก่ Golden Plains, Nillumbik และ Manningham
ประชากร: 2.6M
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 35.7%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$96,148
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,630
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$770,500
ค่าครองชีพ: 3% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การทำเหมือง ไอทีการท่องเที่ยว และการก่อสร้าง
เดือนที่อุ่นที่สุด: มกราคม (เฉลี่ยสูงสุด 29 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 22 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 21 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 10 องศา)
เมืองน่าอยู่ที่สุดในออสเตรเลียสำหรับครอบครัว
กรุงแคนเบอร์รายังมีระบบการรักษาพยาบาล การศึกษา
1. แคนเบอร์รา, รัฐแห่งเมืองหลวง
เมืองหลวงของประเทศแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านผังเมืองที่วางไว้เป็นอย่างดี และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ กรุงแคนเบอร์รายังมีระบบการรักษาพยาบาล การศึกษา และบริการสาธารณะที่ยอดเยี่ยมและมีประสิทธิภาพ ชุมชนที่หลากหลายของเมือง ตลาดงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น จึงได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวต่างชาติ
ถึงแม้ว่าค่าครองชีพในการทานอาหารที่ร้าน หรือค่าสมาชิกโรงยิมจะสูงกว่าในแคนเบอร์รา แต่ค่าเช่าและของอุปโภคบริโภคราคาถูกกว่าซิดนีย์ ยิ่งไปกว่านั้น แคนเบอร์รายังมีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำที่สุด ในประเทศ ย่านยอดนิยม ได้แก่ Uriarra Village, Jacka และ MacArthur
ประชากร: 456,692
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 28.8%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$125,788
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,749
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$842,000
ค่าครองชีพ: 13% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: รัฐบาล เทคโนโลยี และความปลอดภัยไซเบอร์
เดือนที่อุ่นที่สุด: มกราคม (เฉลี่ยสูงสุด 29 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 14 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 11 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 0 องศา)
2. แอดิเลด, เซาท์ออสเตรเลีย
เมืองแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า City of Churches มีเทศกาลทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง ผลงานศิลปะ และพื้นที่สีเขียวมากมาย แอดิเลดมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับชาวต่างชาติ มีอาหารหลากหลาย ไร่องุ่นที่ได้รับรางวัล รวมทั้งชายหาดที่สวยงาม รวมทั้ง Kangaroo Island!
เปรียบเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆของออสเตรเลีย แอดิเลดเป็นเมืองที่ย่อมเยา นอกจากนี้ จากข้อมูลของ Numbeo เมืองนี้มีอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำ หรือ ปานกลาง อีกทั้งยังมามหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ ได้แก่ University of Adelaide, University of South Australia และ Flinders University
ประชากร: 1.4M
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 45.4%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$80,496
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ):AU$2,188
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$700,000
ค่าครองชีพ: 1% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การป้องกัน การดูแลสุขภาพ และวิศวกรรม
เดือนที่อุ่นที่สุด: กุมภาพันธ์ (เฉลี่ยสูงสุด 29 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 18 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: มิถุนายน (เฉลี่ยสูงสุด 16 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 8 องศา)
3. โกลด์โคส, ควีนส์แลนด์
เมืองโกลด์โคสดึงดูดชาวต่างชาติในแต่ละปี ด้วยแสงแดดที่มีตลอด รวมทั้งการใช้ชีวิตที่คึกคัก อีกทั้งยังมีชายหาดระดับโลก ตึกระฟ้า รวมทั้งความบันเทิงมากมาย เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเมืองใหญ่และความงามตามธรรมชาติ
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปี ค่าครองชีพในโกลด์โคสค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่อาจมีปัญหาล้วงกระเป๋าในแหล่งท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น Griffith University, Bond University และ Southern Cross University
ประชากร: 640,000
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 29.1%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$87,932
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,232
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$832,000
ค่าครองชีพ: 10% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การก่อสร้าง และความบันเทิง
เดือนที่อุ่นที่สุด: มกราคม (เฉลี่ยสูงสุด 29 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 20 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 20 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 9 องศา)
เมืองที่ค่าครองชีพถูกที่สุดในออสเตรเลีย
1. เพิร์ธ, เวสเทิร์นออสเตรเลีย
เพิร์ธเป็นเมืองหลวงแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยวิถีชีวิตที่ผ่อนคลาย แสงแดดตลอดทั้งปี รวมทั้งบรรยากาศริมชายฝั่งที่น่าทึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมทั้งงานเทศกาลตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ เพิร์ธยังได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ย่อมเยาที่สุดในออสเตรเลีย! เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ส่วนใหญ่ เพิร์ธประสบปัญหาอัตราอาชญากรรมที่สูงกว่าในบางพื้นที่ แนะนำให้คุณหาข้อมูลก่อนย้ายมา โดยย่านที่ปลอดภัย ได้แก่ Dalkeith, Floreat และ Lower Chittering นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ University of Western Australia, Edith Cowan University และ Curtin University
ประชากร: 2.1M
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 54.1%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$100,412
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,709
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$631,000
ค่าครองชีพ: 17% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: การทำเหมือง วิศวกรรม ไอที และการท่องเที่ยว
เดือนที่อุ่นที่สุด: กุมภาพันธ์ (เฉลี่ยสูงสุด 31 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 20 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 18 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 10 องศา)
นอกจากนี้ เพิร์ธยังได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่ย่อมเยาที่สุดในออสเตรเลีย!
2. นิวแคสเซิล, นิวเซาท์เวลส์
เมืองแห่งเหล็กกล้าแห่งนี้ดึงดูดชาวต่างชาติที่แสวงหาการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ และความงามตามธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับชายหาดที่งดงาม ผลงานศิลปะที่น่าทึ่ง และการใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายท่ามกลางแสงแดด ชุมชนที่เป็นมิตรของนิวแคสเซิล รวมทั้งคนท้องถิ่นที่น่ารักเป็นเอกลักษณ์ของเมือง
นิวแคสเซิลเป็นเมืองที่มีรากฐานจากชนชั้นทำงาน จึงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพย่อมเยากว่าเมืองฝั่งตะวันออกอย่างซิดนีย์ แคนเบอร์รา และบริสเบน มีอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ใจกลางเมือง ดังนั้น หาข้อมูลก่อนย้ายมาก ย่านที่เป็นมิตรกับครอบครัว ได้แก่ New Lambton, Kotara และ Adamstown
ประชากร: 348,000
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 14.8%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$87,152
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,297
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$815,000
ค่าครองชีพ: 22% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: เหล็กกล้า การศึกษา และการดูแลสุขภาพ
เดือนที่อุ่นที่สุด: กุมภาพันธ์ (เฉลี่ยสูงสุด 25 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 20 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 17 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 9 องศา)
3. วุลลองกอง, นิวเซาท์เวลส์
เมืองนี้มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า The Gong ผสมผสานระหว่างความทันสมัยของเมือง และความงามตามธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม งานศิลปะและวัฒนธรรมที่โดดเด่น อีกทั้งยังเป็นเมืองอุตสาหกรรม และเมืองติดชายฝั่ง
ด้วยอัตราค่าเช่าและราคาบ้านที่ต่ำที่สุดจากลิสต์ของเรา วุลลองกองเป็นอีกเมืองที่ย่อมเยากว่าเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ เมลเบิร์น และแคนเบอร์รา ย่านที่ปลอดภัย ได้แก่ Cordeaux Heights, Figtree และ Wollongong Central นอกจานี้ University of Wollongong ยังมีสถาบันการศึกษาระดับโลก!
ประชากร: 280,153
ประชากรที่เกิดในต่างประเทศ: 16%
รายได้เฉลี่ยรายปีต่อครัวเรือน: AU$87,464
ค่าเช่าเฉลี่ยรายเดือน (สำหรับห้องสตูดิโอ): AU$2,053
ค่าบ้านโดยเฉลี่ย: AU$530,000
ค่าครองชีพ: 24% ต่ำกว่าครอบครัวออสเตรเลียสมาชิกสี่คน
อุตสาหกรรมหลัก: เหล็กกล้า การเดินทะเล และการท่องเที่ยว
เดือนที่อุ่นที่สุด: มกราคม (เฉลี่ยสูงสุด 26 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 18 องศา)
เดือนที่หนาวที่สุด: กรกฎาคม (เฉลี่ยสูงสุด 17 องศา และเฉลี่ยต่ำสุด 8 องศา)
แหล่งที่มา: expatistan.com, abs.gov.au, statista.com, corelogic.com, numbeo.com
การย้ายไปเวสเทิร์นออสเตรเลีย
รัฐนี้ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีภูมิทัศน์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่อย่างเพิร์ธ หรือธรรมชาติสวยงามที่ Kimberley จึงไม่แปลกใจที่มีคนจำนวนมากอยากย้ายมาที่นี่ นอกจากนี้ ยังมีชายหาดที่สวยงาม โลกแห่งสัตว์นี้ แหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติ เขตเก่าแก่ของเผ่าอะบอริจิน เป็นต้น!
แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในเวสเทิร์นออสเตรเลีย
ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่อย่างเพิร์ธ หรือธรรมชาติสวยงามที่ Kimberley จึงไม่แปลกใจที่มีคนจำนวนมากอยากย้ายมาที่นี่
ย่านอาศัยในเพิร์ธ
ด้วยจำนวนประชากรกว่าครึ่งล้าน เพิร์ธดึงดูดชาวต่างชาติด้วยตลาดแรงงานที่หลากหลาย ราคาบ้านที่ต่ำ มีเที่ยวบินมากมาย และอากาศดีตลอดทั้งปี
เกร็ดความรู้ – ถึงแม้ว่าเพิร์ธจะเป็นเมืองที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก เพราะเมืองมหานครที่ใกล้ที่สุดอย่างแอดิเลดอยู่ห่างไปถึง 2,100 กิโลเมตร แต่เป็นเมืองที่มีแสงแดดมากที่สุด ประมาณแปดชั่วโมงต่อวัน
- East Perth: ได้รับการโหวตให้เป็นย่านน่าอยู่ที่สุดในเพิร์ธโดย Soho.com มีพื้นที่สีเขียวมากมาย วิวที่งดงามขง Elizabeth Quay และใกล้กับย่านธุรกิจใจกลางเมือง
- Ashfield: เป็นย่านน่าอยู่ ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำ Swan เชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ และบ้านราคาย่อมเยา
- North Fremantle: ย่านที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ชอบอาบแดดและโต้คลื่น คนท้องถิ่นเรียกว่า North Freo ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดแสนสวย และไม่ไกลจาก University of Notre Dame
ราคาอสังหาริมทรัพย์ออสเตรเลีย: รัฐที่แพงที่สุดและถูกที่สุด
นิวเซาท์เวลส์
$1,167,500 มูลค่าบ้านโดยเฉลี่ย
นอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี
$512,00 มูลค่าบ้านโดยเฉลี่ย
ย้ายไปอีสโคสต์ออสเตรเลีย
แสงแดด ทะเล และชายหาด – มีอีกมากมายให้คุณได้หลงรักฝั่งอีสโคสต์ของออสเตรเลีย! โดยมีเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ และเมลเบิร์น รวมทั้งเมืองหลวงอย่างแคนเบอร์รา รวมทั้งโกลด์โคส สวรรค์แห่งนักเล่นเซิร์ฟ
ต่อไปนี้ คือ เมืองน่าอยู่ในฝั่งตะวันออกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ วิคตอเรีย ควีนส์แลนด์ และเมืองหลวง:
ย่านน่าอยู่ในซิดนีย์
ซิดนีย์เป็ฯเมืองที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ โดยมีย่านต่างๆที่มีบรรยากาศเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีชายหาดระดับโลก ความงามตามธรรมชาติ และเมืองที่ดึงดูดทั้งผู้พำนักและผู้มาเยือน
- Paddington: มีบ้านสไตล์วิคตอเรียนและความทันสมัย อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านกาแฟ และแหล่งวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง
- Surry Hills: ย่านยอดนิยมที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมืองซิดนีย์ มีบรรยากาศยามราตรี และร้านอาหารระดับโลก
- Newtown: มีชื่อเสียงในกลุ่มศิลปิน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ด้วยบรรยากาศแบบโบฮีเมียน ร้านวินเทจ และโรงละคร
ย่านน่าอยู่ในบริสเบน
เมืองหลวงแห่งนี้ของรัฐควีนส์แลนด์มีย่านอาศัยที่หลากหลายที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และความทันสมัย มีทั้งสวนสาธารณะ สถานที่ทางวัฒนธรรม และกิจกรรมกลางแจ้ง
- New Farm: ย่านภายในตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำบริสเบน มีบรรยากาศที่คึกครื้น ตลาดเกษตร และพื้นที่สีเขียว
- Paddington: ย่านที่มีเสน่ห์แห่งนี้มีบ้านแบบควีนส์แลนด์สีสันสดใส อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านของเก่าและสนาม Suncorp
- The West End: มีประชากรหลากวัฒนธรรม และบรรยากาศแบบโบฮีเมียน มีกิจกรรมท้องถิ่นมากมายทั้งการแสดง โรงละคร และดนตรี
แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในอีสเทิร์นออสเตรเลีย
โดยมีเมืองใหญ่อย่างซิดนีย์ และเมลเบิร์น รวมทั้งเมืองหลวงอย่างแคนเบอร์รา รวมทั้งโกลด์โคส สวรรค์แห่งนักเล่นเซิร์ฟ
ย่านน่าอยู่ในเมลเบิร์น
เมลเบิร์นขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม งานศิลปะ และกีฬา มีย่านที่โดดเด่นที่มาพร้อมคาเฟ่ลับ สตรีทอาร์ต และสวนที่สวยงาม
- East Melbourne: โดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมวิคตอเรีย และสวนสาธารณะ อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับ Melbourne Cricket Ground
- South Yarra: ย่านนี้มีร้านค้าที่มีสไตล์ ร้านอาหารไฮเอนด์ และตั้งอยู่ใกล้กับ Royal Botanic Gardens
- Fitzroy: มีบรรยากาศแบบศิลปะและโบฮีเมียนที่มีชื่อเสียง รวมทั้งกราฟิติ และชีวิตยามราตรี
ย่านน่าอยู่ในโกลด์โคส
โกลด์โคสดึงดูดชาวต่างชาติด้วยชายหาดที่งดงาม วิถีชีวิตของนักโต้คลื่นและกิจกรรมกลางแจ้ง เพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตริมชายฝั่ง และความงามตามธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของออสเตรเลีย
- Broadbeach: ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากชายหาด และ Star Casino มีตึกสูงและร้านอาหารรับห้าดาว
- Surfers Paradise: มีชายหาดที่มีชื่อเสียง ตึกระฟ้า แหล่งชอปปิ้งและความบันเทิง ดึงดูดทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว
- Burleigh Heads: มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและคลื่นที่สูง มีบ้านริมหาด และวัฒนธรรมคาเฟ่ที่น่าสนใจ
ย่านน่าอยู่ในแคนเบอร์รา
แคนเบอร์รามีผังเมืองที่ดี สถาบันทางวัฒนธรรม และธรรมชาติที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังมีการศึกษาที่เป็นเลิศ และกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย
- Yarralumla: ย่านสถานทูตที่มีชื่อเสียง บ้านสวยงาม พื้นที่สีเขียว และใกล้กับใจกลางเมือง
- Manuka: ย่านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแคนเบอร์รา มีร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมทางวัฒนธรรมมากมาย
- Kingston: ตั้งอยู่ริมชายฝั่ง Lake Burley Griffin มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือน มีร้านอาหารริมน้ำ และความบันเทิงที่หลากหลาย
เปรียบเทียบการเช่าและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย
เมื่อคุณเลือกย่านที่จะลงหลักปักฐานในออสเตรเลียได้แล้ว ถึงเวลาตัดสินใจว่าจะซื้อหรือเช่าบ้าน โดยการเช่าบ้านจะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้คุณก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะหากสุดท้ายแล้วออสเตรเลียไม่ใช่คำตอบสำหรับคุณและครอบครัว คุณอาจอยากกลับบ้านเกิด หรือ การซื้อบ้านอาจทำให้คุณได้สร้างรากฐานได้ในทันทีในพื้นที่ของคุณเอง
อย่าลืมจองที่พักชั่วคราวกับทางโรงแรม หรือ Airbnb เพื่อคุณจะได้มีที่พักระหว่างการหาบ้าน!
มีเอกสารอะไรบ้างที่คุณต้องใช้ในการเช่าบ้านในออสเตรเลีย
โดยทั่วไป เอกสารที่คุณต้องแสดงเพื่อเช่าบ้านในออสเตรเลีย ประกอบด้วย:
- เอกสารประจำตัว: ได้แก่หนังสือเดินทาง แต่เจ้าหน้าที่อาจขอเอกสารยืนยันตัวตนที่มีรูปถ่ายประเภทอื่น อาทิเช่น บัตรนักเรียน วีซ่า หรือใบขับขี่
- หลักฐานรายได้: คุณต้องส่งสำเนาเงินเดือนหลายเดือน รายการบัญชีธนาคาร หรือจดหมายตอบรับทำงานที่ระบุเงินเดือนของคุณ
- ประวัติการเช่าบ้าน: คุณอาจต้องใช้สัญญาเช่าบ้านฉบับเก่า หนังสืออ้างอิงจากเจ้าของบ้านเดิม หรือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือสำเนาการจ่ายค่าเช่าก่อนหน้านี้
- หนังสืออ้างอิง: คุณต้องแสดงหลักฐานอ้างอิงการทำงานจากผู้จัดการ หรือหัวหน้าแผนกของคุณ หากคุณไม่เคยทำงานมาก่อน อาจเป็นหนังสือจากครู หรือผู้นำชุมชน
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลีย
ก่อนเดินทางถึงออสเตรเลีย ทำการหากข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับเขตที่คุณเลือก พิจารณาราคาบ้าน การเดินทางไปทำงาน ขนส่งสาธารณะ โรงเรียน อัตราอาชญากรรม สวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกท้องถิ่น โดยเว็บไซต์ยอดนิยม ได้แก่ Realestate, Rent และ Property
หลีกเลี่ยงการเลือกบ้านจากรูป วิดีโอหรือข้อความเพียงอย่างเดียว แต่นัดไปดูบ้านด้วยตัวคุณเอง เพราะคุณจะสัมผัสได้มากกว่า รวมทั้งถามข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวแทน
คำแนะนำ: ใช้เครื่องมือค้นหาข้อมูลจาก Realestate.com.au เพื่อหาย่านพักอาศัยที่นิยมมากที่สุดในออสเตรเลีย โดยจะแสดงทั้งแนวโน้มราคา จำนวนและประเภทบ้านที่ให้เช่า รวมทั้งรายละเอียดตลาดอสังหาริมทรัพย์
เมื่อคุณเลือกได้แล้ว กรอกแบบฟอร์มสมัครให้เรียบร้อย อาจมีคนอื่นยื่นด้วย ดังนั้นต้องกรอกโดยเร็ว จากนั้น คุณต้องส่งหลักฐานรายได้ และบัตรประจำตัว (หนังสือเดินทาง ใบขับขี่ สูติบัตร เป็นต้น) ตัวแทนอาจขอหนังสืออ้างอิงส่วนบุคคลหรือการเช่าบ้านเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและคุณสมบัติของคุณ เพิ่มจดหมายแนะนำตัวคุณเอง และเหตุผลในการเลือกบ้าน เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน
ก่อนย้ายเข้าบ้าน คุณต้องลงนามสัญญาเช่า โดยทั่วไปกำหนดที่หนึ่งปี และมีรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้เช่า อาทิ การชำระสาธารณูปโภค ชำระค่ามัดจำ และข้อกำหนดหากมีสัตว์เลี้ยง อีกทั้งยังมีรายละเอียดเจ้าของบ้าน และหน้าที่ในการซ่อมแซม และข้อพึงปฏิบัติด้านสุขภาพ และความปลอดภัย อ่านสัญญาโดยละเอียดและขอสำเนาเก็บไว้
การซื้อบ้านในออสเตรเลีย
เริ่มจัดการทางการเงินของคุณเพื่อแน่ใจว่าคุณรับภาระเงินกู้ได้หรือไม่ – อย่าลืมว่ามีค่ามัดจำประมาณ 20% ของราคาบ้าน จากนั้น ตรวจสอบคะแนนเครดิตบนเว็บไซต์ อาทิ Experian, Equifax และ Illion ที่ใช้ประเมินโอกาสในการได้รับการตอบรับสินเชื่อ และคำแนะนำในการเพิ่มคะแนน
จากนั้น ยื่นขอสินเชื่อบ้านจากธนาคาร อาทิ Commonwealth Bank of Australia, Westpac Banking Corporation และ National Australia Bank Limited หากได้รับการอนุมัติล่วงหน้าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะซื้อบ้านราคาประมาณไหน พิจารณาใช้บริการนายหน้าสินเชื่อเพื่อช่วยคุยกับธนาคารแทนคุณเพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยดีที่สุด
ดูบ้านให้มากที่สุดผ่านเว็บไซต์ยอดนิยมอย่าง Realestate.com.au และ OntheMarket.com เมื่อคุณเจอบ้านในฝันแล้ว ทำการเสนอราคา หากจำเป็น ทนายสามารถช่วยต่อรองได้ หากข้อเสนอของคุณได้รับการตอบรับ คุณจะลงนามสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย โดยต้องอ่านให้ละเอียด หากมีข้อสงสัย ปรึกษาทนาย
จากนั้น จ้างมืออาชีพในการตรวจสอบอาคาร หากพลาดขั้นตอนนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงตามมา จากนั้น ต่อรองราคาบ้านครั้งสุดท้าย ทำสัญญาสินเชื่อกับธนาคาร และให้ทนายดูแลด้านกฎหมาย
วิธีการเปิดบัญชีธนาคารออสเตรเลียในฐานะชาวต่างชาติ
ติดต่อธนาคารท้องถิ่นในย่านอาศัยของคุณ และทำการเปรียบเทียบออนไลน์ก่อนเลือกธนาคารที่จะเปิดบัญชี โดยธนาคารที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย ได้แก่ "The Big Four" — Commonwealth Bank of Australia, Westpac Banking Corporation, Australia and New Zealand Banking Group Limited (ANZ) และ National Australia Bank
ต่อไปนี้ คือตัวอย่างบัญชีธนาคารออสเตรเลียที่พบได้ทั่วไป:
บัญชีกระแสรายวัน: ใช้สำหรับรับค่าจ้างและค่าใช้จ่ายประจำวัน อาทิเช่น ใบเสร็จ ของอุปโภคบริโภค น้ำมัน เป็นต้น คุณสามารถถอนเงินได้จากตู้เอทีเอ็ม รวมทั้งทำการโอนเงิน
บัญชีออมทรัพย์: สำหรับการเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในภายหลัง บัญชีออมทรัพย์ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีกระแสรายวัน ซึ่งเป็นรายได้เพิ่มของคุณ
ระยะเวลาฝากเงิน: บัญชีออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีกระแสรายวัน โดยคุณไม่สามารถแตะต้องเงินได้ตามเวลาที่กำหนด (1 ปีขึ้นไป)
ในการเปิดบัญชี คุณต้องยื่นเอกสารประจำตัว อาทิเช่น ใบขับขี่ออสเตรเลีย สูติบัตร หรือหนังสือเดินทาง
วิธีกรรโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออสเตรเลีย
มีตัวเลือกหลายวิธีในการโอนเงินจากต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารออสเตรเลียของคุณ:
- โอนเงินผ่านธนาคาร: เป็นการโอนเงินโดยตรงระหว่างธนาคาร คุณสามารถอนุญาตการโอนเงินได้ด้วยการไปที่ธนาคารหรือโทรหา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยแต่มีค่าธรรมเนียมสูง
- โอนเงินออนไลน์: มีแพลตฟอร์มากมาย อาทิเช่น PayPal, Wise และ Revolut ที่ช่วยให้คุณส่งเงินออนไลน์ผ่านแอปหรือเว็บไซต์ โดยมีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการโอนผ่านธนาคาร
- ธนาณัติหรือแคชเชียร์เช็กระหว่างประเทศ: เป็นวิธีที่เหมาะหากคุณไม่ต้องการส่งเงินจริง โดยใช้เวลานานกว่า แต่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
การทำงานและการหางานในออสเตรเลีย
ในออสเตรเลีย มีตำแหน่งงานว่างนับแสนตำแหน่ง ชาวต่างชาติมีโอกาสในการได้งานทำแน่นอน วิธีที่ดีที่สุดคือการได้รับการสนับสนุนจากนายจ้างออสเตรเลียในตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการผ่าน Skilled Migration Program โดยจะพิจารณาประสบการณ์การทำงานมากกว่าวุฒิการศึกษา ดังนั้น ไม่ต้องกังวลไปหากคุณไม่มีวุฒิ
ยิ่งไปกว่านั้น หากอาชีพของคุณยังไม่เป็นที่ต้องการในขณะนี้ ออสเตรเลียมีวีซ่าทำงานมากกว่า 43 ประเภท ที่ครอบคลุมตั้งแต่เจ้าของกิจการ นักลงทุน วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน รวมทั้งวีซ่านักบวช ต้องมีวีซ่าที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ!
เริ่มต้นด้วยการค้นคว้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว และค้นหาตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการที่เหมาะกับทักษะของคุณ
คำแนะนำการหางานในออสเตรเลีย
ก่อนทำการหางาน คุณต้องทำความเข้าใจเงื่อนไขการทำงานของวีซ่าที่คุณได้รับก่อน ยกตัวอย่าง คุณทำงานได้แบบเต็มเวลาหรือแบบพาร์ทไทม์ คุณทำงานกับนายจ้างคนเดิมได้ต่อเนื่องกัน หรือเฉพาะเวลาที่กำหนดเท่านั้น มีการจำกัดชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์หรือไม่ ตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขเฉพาะของวีซ่าทำงานของคุณได้จาก เว็บไซต์ Department of Home Affairs
ทำการหาข้อมูลนายจ้าง และสาขาการทำงานที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเพื่อกำหนดว่าทักษะของคุณตรงกับงานประเภทใด เว็บไซต์ของรัฐบาลอย่าง Job Outlook Australia เป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับสถิติงาน รวมทั้งการฝึกอบรมที่ต้องทำ ค่าจ้างโดยเฉลี่ย ข้อมูลประชากร รวมทั้งตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการ
จากนั้น จัดทำประวัติส่วนตัวของคุณเพื่อเน้นคุณสมบัติที่แตกต่างเพื่อเพิ่มโอกาสการได้จ้างงาน อาทิเช่น เน้นความสามารถเฉพาะทาง และประสบการณ์เมื่อสมัครงานด้านไอที หรือทักษะในการพบลูกค้าหากสมัครงานด้านการขาย
ใช้บริการเว็บไซต์ประกาศหางานยอดนิยม อาทิเช่น Seek, Indeed และ CareerOne รวมทั้งเชื่อมต่อกับว่าที่นายจ้างบน LinkedIn แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ออกแบบสำหรับคนทำงาน
ตัวเลือกอื่นๆในการหางาน ประกอบด้วย:
- การเข้าร่วมงานสร้างเครือข่ายสังคม และงานนัดพบแรงงานเพื่อสร้างเครือข่าย
- แสดงทักษะของคุณโดยทำงานอาสา หรือฝึกงาน
- ลงทะเบียนกับหน่วยงานจัดหางานที่ทำหน้าที่ประสานกับนายจ้างแทนคุณ
- ตรวจสอบตำแหน่งงานที่ว่างจากเว็บไซต์ของนายจ้าง หากไม่มีตำแหน่งว่าง ส่งอีเมลพร้อมประวัติส่วนตัวของคุณให้บริษัท!
สร้างความโดดเด่นให้ต่างจากคู่แข่งโดยการหาข้อมูลการทำประวัติส่วนตัวแบบมาตรฐานของออสเตรเลีย จากนั้น เขียนจดหมายแนะนำตัวโดยเน้นทักษะ ความเหมาะสมกับตำแหน่ง และความพร้อมทำงานเต็มที่ของคุณ อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับบริษัทให้มากที่สุดด้วย
การหางานในตลาดที่มีการแข่งขันสูงต้องใช้ความอดทนและความเข้มแข็ง – สมัครงานและสร้างเครือข่ายเรื่อยๆ คุณจะได้งานทำในออสเตรเลียในไม่ช้า!
เคล็ดลับในการหางานในอเมริกา
เริ่มต้นด้วยการค้นคว้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา เช่น การดูแลสุขภาพ การศึกษา และการท่องเที่ยว และค้นหาตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการที่เหมาะกับทักษะของคุณ ใช้เว็บไซต์จัดหางานเช่น Indeed และ Monster และเชื่อมต่อกับผู้จ้างงานที่มีศักยภาพบน LinkedInซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสำหรับมืออาชีพ ตัวเลือกการหางานอื่น ๆ ได้แก่:
- เข้าร่วมกิจกรรมเครือข่ายและงานแสดงอาชีพ
- ตรวจสอบเว็บไซต์ของนายจ้างที่คุณต้องการสำหรับตำแหน่งงานว่าง
- การลงทะเบียนกับบริษัทจัดหางาน
- บริษัทส่งอีเมลถึงบริษัทโดยตรงพร้อม CV ของคุณ (เรียกว่าเรซูเม่ในอเมริกา!)
หากต้องการโดดเด่นจากผู้สมัครคนอื่นๆ ให้ปรับแต่ง CV ของคุณให้เหมาะกับตลาดงานในอเมริกา เขียนจดหมายสมัครงานที่จัดทำมาอย่างดี และเน้นย้ำถึงความสำเร็จและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องของคุณในระหว่างการสัมภาษณ์ สุดท้ายนี้ การหางานในสหรัฐอเมริกาต้องอาศัยความพากเพียรและความยืดหยุ่น ค้นหาและส่งใบสมัครต่อไป แล้วคุณจะได้งานในฝันทันที
ข้อมูลสถิติการจ้างงานของออสเตรเลีย
ชั่วโมงการทำงานประจำสัปดาห์โดยเฉลี่ย | 31.7 |
ชั่วโมงการทำงานประจำปีโดยเฉลี่ย | $68,092 |
การจ้างงานเต็มเวลา | 9.82M |
การจ้างงานพาร์ทไทม์ | 4.34M |
ตำแหน่งงานที่ว่าง | 390,400 |
แหล่งที่มา: abs.gov.au, treasury.gov.au
10 อันดับงานที่เป็นที่ต้องการในออสเตรเลีย
จากข้อมูลของ Australian Labour Market Insights 10 ตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด รวมทั้งเพดานอาชีพ* ประกอบด้วย:
*เพดานอาชีพ (occupation ceiling): คือ โควต้าตำแหน่งงานที่เปิดรับในแต่ละปีสำหรับโปรแกรม
คุณสามารถลาพักร้อนได้กี่วันต่อปีในออสเตรเลีย?
ลูกจ้างในออสเตรเลียทั้งแบบเต็มเวลาและพาร์ทไทม์ สามารถลาพักร้อนได้เป็นเวลาสี่สัปดาห์ในแต่ละปี โดยสถานที่ทำงานมักจะปิดทำการเป็นเวลาสองสัปดาห์ในช่วงเทศกาลจนถึงปีใหม่ ทำให้คุณมีวันหยุดเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีวันลาแบบไม่ได้รับค่าจ้างหากคุณยื่นความประสงค์
ทำความเข้าใจระบบการศึกษาของออสเตรเลีย
ในออสเตรเลีย เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับตั้งแต่อายุหกถึงสิบหกปีจากที่โรงเรียน หรือที่บาน หาโรงเรียนในพื้นที่ของคุณโดยใช้เครื่องมือค้นหา Australian Schools Directory search tool
คุณสามารถพาลูกสมัครเข้าเรียนได้ตลอดทั้งปี แต่ควรวางแผนให้ดีล่วงหน้าเนื่องจากบางโรงเรียนมีรายชื่อนักเรียนรอเข้าเรียนจำนวนมาก ระหว่างช่วงการสมัครเรียน คุณต้องแสดงประวัติการรับภูมิคุ้มกันของเด็ก
การศึกษาในออสเตรเลีย ประกอบด้วยทั้งโรงเรียนรัฐบาล และโรงเรียนเอกชน และแบ่งออกเป็น ดังนี้:
- ระดับปฐมวัยและอนุบาล: เป็นการศึกษาแบบไม่บังคับ แต่เด็กส่วนใหญ่เข้ารับการศึกษาระดับปฐมวัยในช่วงอายุสี่และห้าปี ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นระดับประถมศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้และการเข้าสังคมที่จำเป็น
- ระดับประถมศึกษา (เกรด 1-7): เป็นการศึกษาภาคบังคับที่เริ่มตั้งแต่อายุหกปี และใช้เวลาทั้งหมดหกปี ครอบคลุมเนื้อหาต่างๆ ทั้งภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และพละศึกษา
- ระดับมัธยมศึกษา (เกรด 8-12): เป็นการศึกษาภาคบังคับกำหนดไว้ที่สี่ปี โดยมีวิชาเอกตามตัวเลือกและความสามารถของผู้เรียน
สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสองปีสุดท้าย นักเรียนสามารถเลือกเรียนวิชาเฉพาะได้ตามแผนการศึกษาในอนาคต และเป้าหมายการทำงาน
ภาพรวมการศึกษาระดับอุดมศึกษาในออสเตรเลีย
แรงงานในออสเตรเลียกว่า 70% มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาขึ้นไปจึงมีการแข่งขันสูง การตอบรับเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ รวมทั้งผลการเรียนจากประเทศของคุณ ทักษะภาษาอังกฤษ คะแนน Australian Tertiary Admission Rank (ATAR) และประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อไปนี้ คือ ตัวอย่างสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา และคุณสมบัติของนักศึกษาในออสเตรเลีย:
- Technical and Further Education (TAFE): มีตัวเลือกทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ถึงปริญญาเอกให้เลือกเรียนในหลายสาขา
คุณวุฒิ ประกอบด้วย ประกาศนียบัตร อนุปริญญา และอนุปริญญาขั้นสูง โดยทำการฝึกอบรมแบบอิสระหรือกับที่ทำงาน นอกจากนี้ ยังมีประกาศนียบัตรอุดมศึกษา และปริญญาตรีที่บางสถาบันมอบให้ เงินเดือนโดยเฉลี่ยสำหรับผู้ที่มีวุฒิ TAFE อยู่ที่ 73,000 ดอลลาร์
- มหาวิทยาลัย: มีหลักสูตรทั้งก่อนจบการศึกษาและหลังจบการศึกษาที่เน้นการวิจัย วิชาการ และการสอบ นักศึกษาจะได้รับการศึกษาเชิงลึกและกว้างขึ้นกว่าโรงเรียนทั่วไปที่เน้นสอนด้านอาชีพที่เป็นที่ต้องการ
คุณสมบัติที่กำหนด ประกอบด้วย วุฒิปริญญาตรี (3-4 ปี) ปริญญาโท (1-2 ปี) และปริญญาเอก (3 ปีขึ้นไป) เงินเดือนโดยเฉลี่ยสำหรับวุฒิปริญญาตรีอยู่ที่ 75,000 ดอลลาร์ ปริญญาโทอยู่ที่ 103,958 ดอลลาร์ และปริญญาเอกอยู่ที่ 100,787 ดอลลาร์
แรงงานในออสเตรเลียกว่า 70% มีวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป จึงมีการแข่งขันสูง
4 อันดับมหาวิทยาลัยออสเตรเลีย
จากข้อมูลของ Times Higher Education 4 อับดับมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่ได้อันดับสูงสุด ประกอบด้วย:
University of Melbourne,เมลเบิร์น,วิคตอเรีย
อันดับโลก: 34 | ปีที่ก่อตั้ง: 1853 | นักศึกษาเต็มเวลา: 51,307 | นักศึกษาต่างชาติ: 47%
มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ได้รับการยอมรับทั่วโลกจากความเป็นเลิศทางวิชาการ หลักสูตรที่หลากหลาย และการเน้นการวิจัย
ตั้งอยู่ที่เขต Parkville นอกเมืองเมลเบิร์น มีวิทยาเขตสำหรับนักศึกษาที่คึกคัก และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เน้นการคิดวิเคราะห์ และความคิดสร้างสรรค์ นักศึกษาจะเติบโตทางปัญญา และได้รับการส่งเสริมทางนวัตกรรม
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีชมรมนักศึกษากว่า 200 ชมรม ทั้งด้านกีฬา ศาสนา และการเมือง
Monash University, เมลเบิร์น, วิคตอเรีย
อันดับโลก: 44 | ปีที่ก่อตั้ง: 1958 | นักศึกษาเต็มเวลา: 58,460 | นักศึกษาต่างชาติ: 38%
มหาวิทยาลัยโมนาช คือ สถาบันการศึกษาพลวัตและเป็นนวัตกรรม ขึ้นชื่อเรื่องการวิจัย และผู้นำในวงการการศึกษา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีนักศึกษาจากกว่า 170 ประเทศ และสองวิทยาเขตในต่างประเทศ ทั้งที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย
มหาวิทยาลัยมีความภาคภูมิใจในความหลากหลายของสังคมการศึกษา รวมทั้งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และมนุษยศาสตร์ นักศึกษามีตัวเลือกกว่า 6,000 หลักสูตรให้เลือกเรียน ทั้งด้านธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ไอที กฎหมาย และวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม
University of Sydney,ซิดนีย์, นิวเซาท์เวลส์
อันดับโลก: 54 | ปีที่ก่อตั้ง: 1850 | นักศึกษาเต็มเวลา: 57,414 | นักศึกษาต่างชาติ: 51%
ตั้งอยู่ในย่าน Royal Botanic Gardens ใกล้กับ Opera House มหาวิทยาลัยซิดนีย์ เป็นหนึ่งในมหาวิยาลัยที่เก่าแก่และทรงเกียรติที่สุดของประเทศ เป็นเลิศทางวิชาการ และส่งเสริมด้านการวิจัย
สถาบันแนวคิดก้าวหน้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่รับนักศึกษาโดยพิจารณาจากผลการเรียนที่ดี และเปิดรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายอย่างเท่าเทียม
มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีศิษย์เก่าทั้งเจ้าของรางวัลโนเบล รางวัล Crafoord และนายกรัฐมนตีออสเตรเลีย
Australian National University, แคนเบอร์รา, เมืองหลวง
อันดับโลก: 62 | ปีที่ก่อตั้ง: 1946 | นักศึกษาเต็มเวลา: 17,293 | นักศึกษาต่างชาติ: 48%
มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย เป็นสถาบันการศึกษาของรัฐชั้นนำมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทั้งด้านนวัตกรรม และติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด มีหลากหลนายหลักสูตรให้เลือกเรียน ทั้งศิลปะ กฎหมาย วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และการแพทย์
ด้วยการเน้นงานวิจัยที่ทันสมัย มหาวิทยาลัย ANU ดึงดูดนักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก อีกทั้งยังมีศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลหกราย ทุน Rhodes สี่สิบเก้าราย
สิ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับระบบดูแลสุขภาพในออสเตรเลีย
ด้วยระบบการดูแลสุขภาพที่แข็งแกร่ง ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในออสเตรเลียเป็นหนึ่งในชาติที่มีอายุขัยยืนยาวที่สุดของโลกอยู่ที่ 81 และ 85 ปีตามลำดับ มีทั้งระบบการรักษาพยาบาลของรัฐและเอกชน ซึ่งส่วนใหญ่เลือกใช้ระบบ Medicare ที่ให้บริการฟรีและค่าใช้จ่ายต่ำ สำหรับค่าบริการเอกชนมีหลากหลาย และระยะเวลารอรับการรักษาที่สั้นกว่า
วิธีการเลือกแผนประกันสุขภาพของออสเตรเลีย
คุณตัดสินใจเลือกการรักษาพยาบาลจากเอกชนใช่หรือไม่ ต่อไปนี้ คือ คำถามที่จะช่วยคุณเลือกแผนประกันภัยที่เหมาะสมที่สุดต่อทั้งตัวคุณเอง และครอบครัว:
- ครอบคลุมบริการทางการแพทย์อะไรบ้าง และรวมค่ายาตอเนื่อง และการรักษาเชิงป้องกันหรือไม่?
- แผนประกันครอบคลุมทั้งครอบครัวของฉันหรือไม่?
- ค่าประกันต้องจ่ายแบบรายเดือน หรือรายปี และมีราคาเท่าไหร่?
- แผนประกันรวมบริการสุขภาพจิต และการผดุงครรภ์หรือไม่?
- รวมบริการฉุกเฉินและพักในโรงพยาบาลหรือไม่?
- สามารถเปลี่ยนแพทย์และแพทย์เฉพาะทางภายในเครือข่ายได้หรือไม่?
- มีระยะเวลารอในการรักษาเฉพาะทางหรือไม่?
- มีกรมธรรมที่ยืดหยุ่นที่สามารถปรับการครอบคลุมตามความต้องการหรือไม่ หรือเป็นแพ็คเกจที่กำหนดแน่นอน?
- ผู้ให้บริการมีชื่อเสียงในทางที่ดีหรือไม่ รีวิวลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเชิงบวกหรือไม่?
การทำความเข้าใจตัวเลือกประกันสุขภาพของออสเตรเลียอาจเป็นเรื่องท้าทาย! หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการหาแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณของคุณ ลองปรึกษานายหน้าที่มีใบอนุญาต ซึ่งมีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับระบบและให้คำแนะนำได้
ค่าประกันสุขภาพในแต่ละรัฐของออสเตรเลีย
การรักษาพยาบาลของเอกชนในออสเตรเลียมีให้เลือกสี่ระดับ ได้แก่ โกลด์ ซิลเวอร์ บรอนซ์ และเบสิค ซึ่งแต่ละระดับครอบคลุมการรักษาที่รัฐบาลกำหนด ค่าประกันจะขึ้นอยู่กับค่ารักษาพยาบาลของแต่ละสถานที่
ต่อไปนี้ คือ เบี้ยประกันรายเดือนต่อรัฐ
แหล่งที่มา: finder.com.au
ระบบ Medicare มีการทำงานอย่างไรในออสเตรเลีย?
Medicare คือ ประกันสุขภาพของรัฐที่บริหารโดยรัฐบาลออสเตรเลีย ให้บริการแก่ทั้งพลเมืองออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ผู้มีถิ่นพำนักถาวร และผู้ที่มาจากประเทศอื่น (ที่มีข้อตกลงร่วมกัน) โดยให้บริการฟรี หรือเบิกได้
โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลของรัฐ การพบแพทย์ทั่วไป กายภาพบำบัด พยาบาลชุมชน และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก รวมทั้งการเข้าถึงระบบจ่ายยาที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ หรือ Pharmaceutical Benefits Scheme (PBS)
ในการสมัคร เพียงกรอกแบบฟอร์มสมัคร Medicare และส่งไปรษณีย์ หรือส่งอีเมลไปที่ Medicare Enrollment Services พร้อมเอกสารประกอบของคุณ
ข้อมูลเกี่ยวกับประกันสุขภาพเอกชน
ผู้ให้บริการประกันสุขภาพเอกชน มีแผนประกันสุขภาพหลายแผนที่นอกเหนือจาก Medicare โดยมีบริการที่ Medicare ที่ไม่ครอบคลุม อาทิเช่น การรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ทันตกรรม และจักษุแพทย์
โปรดทราบว่า หากคุณเดินทางถึงออสเตรเลียและมีอาการป่วยอยู่แล้ว คุณอาจต้องรอสิบสองเดือนก่อนที่บริษัทประกันจะคุ้มครอง
ต่อไปนี้ คือ แผนประกันสุขภาพที่พบได้ทั่วไปในออสเตรเลีย:
- ครอบคลุมโรงพยาบาล: การพักรักษาในโรงพยาบาล การผ่าตัด และการรักษาทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในโรงพยาบาลเอกชน และอาจรวมบริการรถพยาบาลด้วย
- ครอบคลุมบริการเสริม: ที่ไม่ใช่บริการของโรงพยาบาล เช่นทันตกรรม ดูแลสายตา จัดกระดูก และบริการสุขภาพอื่นๆ
- ครอบคลุมรถพยาบาล: เป็นกรมธรรม์เสริมที่อาจรวมไว้ในแผนประกันสุขภาพ ครอบคลุมค่าบริการรถพยาบาล ซึ่ง Medicare ไม่ครอบคลุมในบางรัฐ
- ครอบคลุมการรักษาในต่างประเทศ: สำหรับผู้มีถิ่นพำนักชั่วคราว อาทิเช่น นักศึกษาต่างชาติ และนักท่องเที่ยว
- ครอบคลุมครอบครัว: ออกแบบสำหรับดูแลสุขภาพทั้งครอบครัว รวมพ่อแม่ และบุตร โดยชำระค่าประกันรวมกัน
อายุไขโดยเฉลี่ยในออสเตรเลีย
ผู้ชาย
81 ปี
ผู้หญิง
85 ปี
แหล่งข้อมูล: The World Bank Open Data
คำแนะนำจากชาวต่างชาติ: การอาศัยในออสเตรเลียเป็นอย่างไรบ้าง?
การย้ายไปออสเตรเลียเป็นความฝันของใครหลายคน ประเทศแห่งนี้มีทั้งแสงแดด คนท้องถิ่นที่เป็นมิตร ทัศนียภาพที่สวยงาม และการผจญภัย แล้วจะมีวิธีไหนดีไปกว่าการทำความเข้าใจประสบการณ์จากชาวต่างชาติที่ย้ายไปออสเตรเลียและใช้บริการของเรา ต่อไปนี้ คือ ข้อมูลที่พวกเขานำมาแบ่งปัน:
"ค้นหาข้อมูลทุกเรื่อง ตั้งแต่โรงเรียน ราคาบ้าน และงานที่มีในแต่ละเมือง รวมทั้งทักษะและคุณสมบัติที่ต้องมี (และต้องทำการโอนคุณสมบัติหรือไม่)
เมื่อหาข้อมูลได้แล้ว เริ่มจองตั๋วเครื่องบิน เตรียมสัตว์เลี้ยง และสัมภาระที่ต้องการนำไป! การเตรียมตัวเป็นกุญแจสำคัญ แต่อย่ารอจนวินาทีสุดท้าย เมื่อตัดสินใจย้ายได้แล้ว เริ่มการเตรียมตัว วิธีนี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการย้ายครั้งใหญ่!"
K และ T Crashley จาก Crashing into Oz
"หากคุณมีวันเดินทางในใจแล้ว เผื่อเวลาให้มากพอ และชำระค่ามัดจำตู้ MoveCube® ฉันจองสองอาทิตย์ล่วงหน้าและมันไม่มากพอ พ่อและแม่ช่วยจัดของลงตู้ MoveCube® และฉันต้องทำรายการสิ่งของระหว่างที่อยู่ที่ออสเตรเลียและกล่องอยู่ที่อังกฤษ
หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับตู้ MoveCube® โทรหาบริษัท Seven Seas Worldwide ฝ่ายบริการลูกค้ายอดเยี่ยมมากเมื่อฉันต้องการความช่วยเหลือในการแก้ไขข้อมูล เพียงโทรหาเท่านั้น"
Tate, Harry, Miley และ Tilly จาก Married Moving to Oz
- "เปลี่ยนอีเมลของคุณจาก co.uk เป็น .com ซึ่งจะได้รับการพิจารณามากกว่าเมื่อสมัครงาน หรือส่งอีเมลสำคัญ
- เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนงาน และเปิดใจในการหางานใหม่ เราหลายคนกำหนดตัวเราจากตำแหน่งงาน แต่ในออสเตรเลียไม่เหมือนกันกับที่เราคุ้นเคย คุณอาจลงเอยใกนารทำงานสาขาใหม่
ตัวอย่าง ฉันเป็นนักข่าวของ Sky News ในลอนดอน แต่เมื่อย้ายไปออสเตรเลีย ฉันทำงานในเหมืองทองกลางทะเลทราย ขอให้สนุก!
- อย่ากดดันตัวคุณเองมากเกินไปเมื่อยื่นขอวีซ่า และอย่ากลัวการปฏิเสธคำเชิญเมื่อต้องทำภาระให้เสร็จก่อน
ระลึกไว้เสมอว่าการอาศัยและทำงานในประเทศใหม่เป็นสิ่งที่สร้างความเครียด แต่ไม่ใช่แค่ระยะเวลาการรอวีซ่า และการหาข้อมูล แต่ต้องตัดสินใจว่าอยากอยู่ที่ไหน และการส่งสัมภาระทั้งหมด"
Anna จาก BRITstralian
เมื่อหาข้อมูลได้แล้ว เริ่มจองตั๋วเครื่องบิน เตรียมสัตว์เลี้ยง และสัมภาระที่ต้องการนำไป! การเตรียมตัวเป็นกุญแจสำคัญ แต่อย่ารอจนวินาทีสุดท้าย เมื่อตัดสินใจย้ายได้แล้ว เริ่มการเตรียมตัว วิธีนี้จะช่วยให้คุณพร้อมสำหรับการย้ายครั้งใหญ่!
- "หากเป็นไปได้ใช้บริการตัวแทนย้ายประเทศที่จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและความเครียด คิดเสียว่าเป็นการลงทุนเพื่อฝันที่เป็นจริงของคุณ!
- เชื่อมั่นในกระบวนการ คุณจะไม่ได้ย้ายไปประเทศใหม่ในชั่วข้ามคืน อย่าเครียดหากบัตร Medicare ยังไม่มาถึงตามระยะเวลา อาจใช้เวลานานกว่าปกติ
- หาข้อมูลยานที่คุณอยากไปอยู่ อาจจะเริ่มจากเมืองก่อน และเมื่อตัดสินใจได้แล้ว หากข้อมูลโรงเรียน และที่พักในย่ายต่างๆของเมือง
- ใช้ YouTube และ Instagram เพื่อหาข้อมูลการใช้ชีวิตในออสเตรเลีย โดยมีคนถ่ายทำวิดีโอการใช้ชีวิตประจำวันไว้
- ขายสัมภาระของคุณให้มากที่สุดก่อนย้าย ซึ่งจะช่วยให้คุณส่งของผ่านตู้ MoveCube® ได้น้อยลง และเริ่มต้นใหม่อย่างสดชื่น
เราใช้บริการตู้ MoveCube® ขนาดกลาง ซึ่งเหมาะกับเราอย่างมากเพราะเราไม่ต้องส่งเฟอร์นิเจอร์ แต่ทำให้เราสามารถส่งของใช้ส่วนตัวได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์ใหญ่
- หากเป็นไปได้ แบ่งการเดินทาง เราใช้เวลาสามเดือนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลงรักทุกนาที เด็กๆได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง และเมื่อเรามาถึงออสเตรเลีย ตู้ MoveCube® ของเรามาถึงก่อนแล้ว! หากคุณเดินทาง แพ็คของเพียงครึ่งเดียว! เราใช้กระเป๋าเป้ 55 ลิตร และกระเป๋าล้อลาก 90 ลิตร ซึ่งยังมากเกินไป
- เปิดใจเมื่อมาถึง ออสเตรเลียไม่ใช่อังกฤษ และมีความแตกต่างกันอย่างมาก ฉันคิดว่าคนส่วนใหญ่มักเปรียบเทียบสองประเทศนี้ ถึงแม้มีบางอย่างดีกว่าในอังกฤษ แต่เราจะไม่เปลี่ยนใจ เรารักที่นี่!"
The Freemans จาก Brixham to Brisbane
"จัดสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้ ต้องการ หรือนำไปรีไซเคิล หรือบริจาคได้ เราไม่ต้องการขนของไปมากเกินไป แผ่นรองพื้นตู้ MoveCube® มีประโยชน์อย่างมาก เราเตรียมการในโรงรถของเรา
เราใช้กล่องขนย้าย ซึ่งจุของได้มาก และจัดเสื้อผ้าแบบสุญญากาศ บริษัท Seven Seas Worldwide ยังโทรหาได้ง่ายเมื่อเรามีคำถาม"
Sarah และ Bill จาก Devon to Down Under
คำแนะนำการเดินทางในออสเตรเลีย
ออสเตรเลียมีขนาดใหญ่มาก ระยะทางจากเพิร์ธทางฝั่งตะวันตกและบริสเบนฝั่งตะออกอยู่ที่ 4,316 กิโลเมตร (2681 ไมล์) ทางรถยนต์ 5 ชั่วโมง 25 นาทีทางเครื่องบิน หรือเดินเท้า 37 วัน! มีพื้นที่ให้สำรวจจำนวนมาก ชาวออสเตรเลียมีพาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุเพียง 53 % เปรียบเทียบกับชาวอังกฤษ 76% ชาวแคนาดา 70% และชาวนิวซีแลนด์ 70%
การเดินทางรอบออสเตรเลีย
การเดินทางรอบออสเตรเลียขึ้นอยู่กับรัฐ หรือเมืองที่คุณอยู่ ทุกรัฐของออสเตรเลียมีบัตรโดยสารสาธารณะประจำถิ่นที่สามารถใช้ขึ้นรถบัส และรถไฟได้ และในบางรัฐใช้ขึ้นรถราง รถไฟใต้ดิน และเฟอร์รี่ได้
ตัวอย่างบัตรโดยสารสาธารณะ:
- ซิดนีย์/นิวเซาท์เวลส์: Opal
- เมลเบิร์น/วิคตอเรีย: Myki
- บริสเบน/ควีนส์แลนด์: Go Card
- เพิร์ธ/เวสเทิร์นออสเตรเลีย: SmartRIDER
- แอดิเลด/เซาท์ออสเตรเลีย: metroCARD
- ทัสมาเนีย: Greencard
- แคนเบอร์รา: MyWay
บัตรโดยสารสามารถหาซื้อได้ทั่วไปที่ร้านสะดวกซื้อ 7-Elevens หรือสถานีขนส่ง คุณสามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้เช่นกัน เติมเงินออนไลน์ ใช้แอป ที่สถานี อีกทั้งยังมีส่วนลดสำหรับนักศึกษา หรือบางแห่ง นายจ้างสมัครให้ลูกจ้าง
การเดินทางโดยรถยนต์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยระยะที่ห่างกันมากของแต่ละเมือง โดยเฉพาะในรัฐชนบทที่มีขนส่งสาธารณะไม่มากอย่างเวสเทิร์นออสเตรเลีย เซาท์ออสเตรเลีย และนอร์ทเทิร์นเทอร์ริทอรี หากคุณไม่ได้มาจากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ แคนาดา สหราชอาณาจักร หรือประเทศสหภาพยุโรปที่ใช้กฎหมายขับขี่คล้ายกัน คุณจะสามารถใช้ใบขับขี่ของคุณได้เป็นเวลาสามเดือนแรก – จากนั้น คุณต้อง ยื่นขอใบขับขี่ออสเตรเลีย
ด้วยขนาดของประเทศ การเดินทางโดยสายการบินภายในประเทศเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสายการบินของออสเตรเลียที่เป็นที่นิยม ได้แก่ Qantas, Virgin Australia และ Jetstar
สำหรับประสบการณ์การเดินทางแบบพิเศษ ลองเช่ารถบ้าน ซึ่งเป็นทั้งรถและที่พัก ทำให้คุณเดินทางได้อย่างอิสระ
ไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย
Pre-1600s
ชาวพื้นเมืองออสเตรเลีย มีภาษาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยอาศัยอยู่ที่ดินแดนแห่งนี้มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 65,000 ปี และทำการพัฒนาสังคมและศิลปะเฉพาะขึ้น
1600s
ในปี 1606 นักสำรวจชาวดัตช์ Willem Janszoon ได้เดินทางถึงชายฝั่งทางตอนเหนือของออสเตรเลีย จากนั้นนักสำรวจรายต่อๆมาอย่าง Dirk Hartog และ Abel Tasman ได้นำความรู้จากทางยุโรปมาเผยแพร่
1700s
Captain James Cook ได้ยึดพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกให้เป็นของอังกฤษในปี 1770 เรือลำแรกนำโดย Captain Arthur Phillip มาถึงในปี 1788 และได้ก่อตั้ง อาณานิคมคุกขึ้นที่ Botany Bay (ปัจจุบันคือ ซิดนีย์)
1800s
จากนั้นมีการสำรวจดินแดนอย่างต่อเนื่อง ในปี 1851 มีการค้นพบทองคำในรัฐวิคตอเรีย และนิวเซาท์เวลส์ ทำให้มีผู้อพยพเดินทางเข้ามาจำนวนมาก และเศรษฐกิจเติบโต
1900s
ในวันที่ 1 มกราคม 1901 มีการก่อตั้ง British Commonwealth of Australia และในปี 1986 กฎหมายออสเตรเลียได้สิ้นสุดการรวมทางรัฐธรรมนูญระหว่างออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร
วัฒนธรรมออสเตรเลีย: ค่านิยม ประเพณี และอีกมากมาย!
ขึ้นอยู่กับว่าคุณมาจากที่ไหน อาจจะใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยกับประเพณีออสเตรเลีย โดยมีความคล้ายกับประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษอื่นๆ อาทิเช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และแคนาดา แต่มีความแตกต่างด้วยเช่นกัน:
- วิถีชีวิตและทัศนคติเรียบง่าย: ชาวออสเตรเลียมีความเป็นมิตรและใช้ชีวิตอย่างสบายๆ มีแนวความคิดของ “ความเป็นเพื่อนกัน” ให้ความสำคัญต่อความภักดีและรักพวกพ้อง ไม่ต้องตกใจที่นายธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือบุรุษไปรษณีย์เรียกคุณว่า “mate” และแวะพูดคุยกับคุณ
- มรดกพื้นเมือง: ชาว Aboriginal และ Torres Strait Islander เป็นคนพื้นเมืองออสเตรเลียที่ตั้งถิ่นฐานมานับหมื่นปี และส่งผลต่อวัฒนธรรมออสเตรเลียอย่างมาก มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับความฝัน ศิลปะ การเชื่อมต่อกันระหว่างโลกที่เป็นอัตลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีเทศกาล NAIDOC Week และ Sorry Day ที่แบ่งปันกับชุมชน
- ตรวจสอบปลั๊ก: ออสเตรเลียใช้ปลั๊กประเภท I แบบสามขา กำลังไฟ 230V และความถี่ 50Hz คุณสามารถอุปกรณ์แปลงไฟเมื่อมาถึง แต่ใช้นานจะไม่ปลอดภัย เปลี่ยนมาใช้แบบท้องถิ่นแทน
- วัฒนธรรมกีฬา: ชาวออสซี่รักกีฬา โดยเฉพาะคริกเก็ต รักบี้ และ Australian Rules Football (AFL) ซึ่งมีความสำคัญต่อสังคมออสเตรเลียและเป็นอัตลักษณ์ของชาติ โดยมีการแข่งขันที่สำคัญอย่าง Melbourne Cup และ AFL Grand Final
- เตรียมตัวหัวเราะ!: ชาวออสเตรเลียมีอารมณ์ขัน อีกทั้งยังเป็นวิธีการสร้างมิตรภายในสังคม
10 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับออสเตรเลีย
- ออสเตรเลียมีทะเลสาบสีชมพูหลายแห่ง อาทิเช่น Lake Hillier ในเวสเทิร์นออสเตรเลีย เชื่อว่าเกิดจากความเข้มข้นของเกลือที่สูง และสาหร่ายทะเล
- Dingo Fence มีความยาวมากที่สุดในโลกกว่า 5,600 กิโลเมตร (3,480 ไมล์) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้หมาป่าดิงโกหลุดออกจากฟาร์ม และใช้ตามวัตถุประสงค์ทางการเกษตรอื่นๆ
- แนวปะการัง Great Barrier Reef คือ ระบบปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ!
- เมลเบิร์น ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีประชากรกรีกที่อยู่นอกเอเธนส์มากที่สุด
- ป่าฝน Daintree Rainforest ในควีนส์แลนด์เป็นป่าฝนเขตร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยมีอายุกว่า 180 ล้านปี ซึ่งเก่าแก่กว่าป่าอเมซอน
- ออสเตรเลียเป็นถิ่นกำเนิดของสัตว์หลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น จิงโจ้ โคอาล่า ตุ่นปากเป็ด และวอมแบต
- ออสเตรเลียเป็น “ทวีปเกาะ” และเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทวีปที่เล็กที่สุดของโลก
- พื้นที่กลางทะเลทราย หรือ “Outback” เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ มีประชากรเบาบาง และเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า
- ออสเตรเลียมีสนามกอล์ฟที่ยาวที่สุดของโลกที่ชื่อว่า Nullarbor Links ที่มีความยาวกว่า 1,365 กิโลเมตร (848 ไมล์) ข้ามผ่านที่ราบ Nullarbor
- ออสเตรเลียมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และเป็นทวีปเดียวในโลกที่ไม่มีภูเขาไฟที่รอวันปะทุอยู่
4 สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดในออสเตรเลีย
1. Sydney Opera House, นิวเซาท์เวลส์:
ซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ เป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย และสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย ออกแบบคล้ายเรือใบ ตั้งอยู่กลางอ่าวซิดนีย์ ใช้เป็นที่จัดแสดง และจัดงานโดยศิลปินทั่วโลก
ออกแบบโดย Jørn Utzon ใช้เวลาก่อสร้างสิบสี่ปีก่อนเปิดใช้งานในปี 1973
มีทัวร์เดินชมรอบโรงโอเปร่า อีกทั้งยังมีโอเปร่าบาร์สำหรับจิบคอกเทล
2. Uluru, นอร์เทิร์นเทอร์ริทอรี:
Uluru มีชื่อเดิมว่า Ayers Rock เป็นหินทรายขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลาง Red Centre โดยจะเปลี่ยนสีในตอนกลางวัน โดยเฉพาะช่วงที่พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน
หินที่เป็นเอกลักษณ์เชื่อกันว่าเกิดขึ้นกว่าห้าร้อยล้านปีที่แล้ว เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่า Anangu
ผู้มาเที่ยวชมสามารถศึกษาประวัติความเป็นมาและถ่ายรูปกับ Uluru ได้
3. The Great Barrier Reef, ควีนส์แลนด์
เดอะ เกรท แบร์ริเออร์ รีฟ คือ ระบบปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมระยะทางกว่าสองพันกิโลเมตรในเขตชายฝั่งควีนส์แลนด์
ปะการังเป็นความหลากหลายทางระบบนิเวศโดยมีมากกว่าสามพันปะการัง ในกว่าเก้าร้อยเกาะ
ระบบปะการังที่นี่มีหลากหลายสีสัน และน้ำใสมาก โดยมีโครงการอนุรษักท์เพื่อรักษาความหลากหลายทางระบลนิเวศ
4. The Twelve Apostles, วิคตอเรีย:
The Twelve Apostles เป็นหินปูนรูปทรงเอกลักษณ์ที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรทางตอนใต้ และมีเส้นทาง Great Ocean Road ผ่าน โดยในปัจจุบันมีเพียงแปดรูปร่างเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่จากทั้งหมดสิบสอง
The Apostles เป็นถ้ำหินปูนในเริ่มแรก แต่คลื่นที่ซัดมาทั้งให้เกิดรูปร่างดังกล่าวขึ้น
ศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของ Twelve Apostles รวมทั้งประวัติความเป็นมา
บริการขนย้ายไปออสเตรเลียมีการทำงานอย่างไร
บริษัท Seven Seas Worldwide ให้บริการขนส่งทั่วโลกมาเป็นเวลามากกว่า 25 ปี เราจะจัดส่งเฟอร์นิเจอร์ กล่อง กระเป๋า จักรยาน และอีกมากมายอย่างปลอดภัยทั่วออสเตรเลียตั้งแต่เพิร์ธ ถึงโกลด์โคส ทีมงานที่มีความรู้ของเรา อุปกรณ์การแพ็คฟรี บริการรับฝากสัมภาระ และฝ่ายบริการลูกค้าภาษานานาชาติทำให้เราเป็นหนึ่งในบริษัทขนย้ายระหว่างประเทศที่โดดเด่น
ตู้ขนย้าย MoveCube® คืออะไร?
คุณสามารถจัดส่งของใช้ในบ้างโดยใช้ ตู้ MoveCube® ที่แข็งแรงของเรา ที่ทำหน้าที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ส่วนตัวของคุณ ที่จะจัดส่งถึงหน้าบ้าน สามารถบรรจุได้ทั้งเครื่องครัว เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์กีฬา กล่อง กระเป๋า และอีกมากมาย!
เพื่อเป็นการช่วยคุณจัดของลงตู้ MoveCube® อย่างปลอดภัย เราจะจัดส่งอุปกรณ์การแพ็คฟรีให้คุณ ประกอบด้วย เทปกาว คัตเตอร์ ปากกาเคมี เทปกาว และที่ตัดเทปกาว นอกจากนี้ ยังมีแผ่นรองพื้นสามผืนเพื่อให้คุณประมาณการว่าจะบรรจุลงตู้ MoveCube® ขนาดใหญ่ กลาง หรือเล็ก
คุณสามารถสั่งตู้ MoveCube® ได้หลายใบตามที่ต้องการเพื่อทำการขนย้าย โดยหากคุณสั่งตู้ MoveCube® หลายใบ อาจมาถึงไม่พร้อมกัน เริ่มการผจญภัยในต่างแดนของคุณที่แสนตื่นเต้นวันนี้ โดยรับ เสนอราคาฟรีในทันที และค่าบริการที่โปร่งใสตลอดขั้นตอน การขนส่งไปออสเตรเลีย
อีกหนึ่งประโยชน์ในการใช้บริการขนย้ายระหว่างประเทศของเรา คือ เราดำเนินพิธีการศุลกากร ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่คุณควรทราบเมื่อ ย้ายเครื่องใช้ในบ้านไปออสเตรเลีย
- เช่นเดียวกับทุกประเทศ ออสเตรเลียมีรายการสิ่งของต้องห้ามเพื่อคุ้มครองพลเมืองและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบข้อมูลจาก หน้าสิ่งของต้องห้าม ของเราก่อนทำการแพ็คเพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและความล่าช้า
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสัมภาระของคุณสะอาดและแห้งก่อนทำการแพ็ค โดยเฉพาะเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ในสวน และอุปกรณ์กีฬา เนื่องจากอาจมีค่าปรับและเกิดความล่าช้าหากเจ้าหน้าที่ด่านกักกันของออสเตรเลียตรวจสอบสิ่งปนเปื้อนในพัสดุของคุณ รองเท้าเช่นกันต้องสะอาดและวางที่ด้านบนสุดของตู้ MoveCube® เพื่อการตรวจสอบที่ง่าย
- เตรียมเอกสารออนไลน์ทั้งหมดในเสร็จสมบูรณ์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ารายการสิ่งของจัดส่งของคุณตรงกับสิ่งของที่จัดส่งในตู้ MoveCube®
- อัพโหลดสำเนาหนังสือเดินทางของคุณโดยแสดงหน้าที่มีรูปถ่ายและลายมือชื่อ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม้ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ และพืชที่ยังมีชีวิตที่คุณจัดส่งไม่เป็นอันตรายตามที่กำหนดโดย CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora)
กรุณาศึกษาข้อมูลจาก หน้าการนำเข้าสิ่งของมายังออสเตรเลีย เพื่อรับรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับขั้นตอนศุลกากรออสเตรเลีย
ระยะเวลาการขนส่งไปออสเตรเลีย
ระยะเวลาขนส่งโดยประมาณเมื่อจัดส่งตู้ MoveCube® ขนาดใหญ่ของเราทางทะเลไปยังเส้นทางยอดนิยมของเราถึงแคนเบอร์รา ออสเตรเลีย:
ประเทศต้นทาง | ระยะเวลาขนส่ง* |
จีน | 69 วัน |
ฮ่องกง | 56 วัน |
ไอร์แลนด์ | 140 วัน |
มาเลเซีย | 78 วัน |
นิวซีแลนด์ | 73 วัน |
สิงคโปร์ | 78 วัน |
แอฟริกาใต้ | 96 วัน |
ไทย | 95 วัน |
สหราชอาณาจักร | 119 วัน |
สหรัฐอเมริกา | 110 วัน |
*ระยะเวลาโดยประมาณขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆในการขนส่งทั่วโลก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการย้ายไปออสเตรเลียสำหรับชาวต่างชาติ
ในการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย กำหนดประเภทวีซ่าตามวัตถุประสงค์ของคุณ (ท่องเที่ยว ทำงาน ศึกษาต่อ เป็นต้น) จากนั้น เข้าเว็บไซต์ Department of Home Affairs เพื่อสร้างบัญชี ImmiAccount และกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ จากนั้น อัพโหลดเอกสารที่ต้องใช้ ชำระค่าธรรมเนียม และส่งใบสมัครของคุณ
ระยะเวลาการพิจารณาวีซ่าออสเตรเลียขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและรายละเอียดแต่ละบุคคล โดยวีซ่าบางประเภทใช้เวลาไม่กี่วัน แต่บางประเภทอาจใช้เวลาหลายเดือน
เราแนะนำให้คุณทำการตรวจสอบข้อมูลจาก เว็บไซต์ Department of Home Affairs เพื่อดูระยะเวลาการพิจารณา และปัจจัยที่ส่งผล การส่งข้อมูลและเอกสารที่ถูกต้องทำให้การยื่นวีซ่ามีประสิทธิภาพ
ระยะเวลาของวีซ่าออสเตรเลียขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่า โดยวีซ่าท่องเที่ยวจะมีระยะเวลาสั้นกว่า ตั้งแต่สามเดือนถึงหนึ่งปี วีซ่าทำงานและวีซ่านักเรียนมีระยะเวลานานกว่า ขึ้นอยู่กับระยะเวลาทำงาน และศึกษา
จำนวนเงินที่ต้องใช้ในการย้ายไปออสเตรเลียขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิเช่น วีซ่าที่คุณเลือก ระยะเวลาที่คุณต้องการอยู่ในประเทศ ค่าเดินทาง และค่าที่พัก กำหนดงบประมาณก่อนทำการแพ็คกระเป๋า และใช้ในการพิจารณาเพื่อแน่ใจว่าคุณจะมีเงินเพียงพอในบัญชีก่อนทำการย้าย
การเลือกเมืองที่จะอยู่ในออสเตรเลียขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะตัวของคุณ การใช้ชีวิต และโอกาสการทำงาน เมืองมหานครอย่างซิดนีย์ และเมลเบิร์นมีความคึกครื้น และตลาดงานที่ใหญ่กว่า ในขณะที่นิวแคสเซิล เพิร์ธ และวุลลองกองค่าครองชีพต่ำกว่า และเรียบง่ายกว่า
10 อันดับงานที่เป็นที่ต้องการในออสเตรเลีย ได้แก่ พยาบาล ครู นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ช่างไฟฟ้า ผู้จัดการก่อสร้าง ช่างไม้ ช่างกล ช่างประปา ช่างเครื่อง และอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในออสเตรเลีย ประกอบด้วย University of Melbourne, Monash University, the University of Sydney และ Australian National University
การอาศัยในออสเตรเลีย คุณจะได้ใช้ชีวิตที่ผ่อนคลาย (เหมาะสำหรับการสร้างครอบครัว!) รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม และสังคมหลากหลายวัฒนธรรม ประเทศแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมืองที่เจริญ ชายหาดที่งดงาม กิจกรรมกลางแจ้ง และคนท้องถิ่นทีเป็นมิตร
ถึงแม้ว่าการย้ายไปออสเตรเลียโดยไม่มีงานจะสามารถทำได้ แต่คุณจะมีโอกาสได้สถานะพำนักถาวรมากกว่าหากได้รับการสนับสนุนจากนายจ้างในตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการ หรือมีสมาชิกครอบครัว หรือคู่สมรสสนับสนุน หรือมีคุณสมบัติสำหรับวีซ่าเกษียณ
เฉพาะประเทศที่ได้รับอนุมัติจะสามารถนำเข้าสุนัขและแมวมายังออสเตรเลียได้ โดยสัตว์เลี้ยงของคุณต้องได้รับวัคซีน พร้อมเดินทาง และฝังไมโครชิพที่ใช้กับเครื่องอ่าน ISO ได้
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งวิธีการกรอกเอกสารนำเข้า และการนำเข้าสัตว์ประเภทอื่น กรุณาศึกษาจาก Australian Government's Department of Agriculture, Fisheries and Forestry ของรัฐบาลออสเตรเลีย
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อช่วยคุณย้ายไปออสเตรเลีย
ประเด็นที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกสถานที่ย้าย ได้แก่ ประชากรชาวต่างชาติ อัตราอาชญากรรม สภาพภูมิอากาศ และค่าครองชีพ
รายการตรวจสอบการย้ายไปออสเตรเลีย
ทำให้การย้ายไปออสเตรเลียของคุณเป็นเรื่องง่ายโดยใช้รายการตรวจสอบนี้ของเรา:
- วางแผนการย้ายให้ละเอียดกับครอบครัว เพื่อน และผู้มีความรู้: ก่อนย้าย ศึกษาข้อดีและข้อเสียของการอาศัยในออสเตรเลีย
- ค้นหาข้อมูลวีซ่าออสเตรเลีย: ศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า และเลือกวีซ่าที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด
- จัดการด้านการเงิน: กำหนดว่าคุณมีเงินสดเพียงพอสำหรับครอบครัวและตัวคุณเองในออสเตรเลียเป็นเวลาสองสามเดือนหรือไม่ก่อนจะได้งานทำและมีบ้าน
- ตัดสินใจเลือกเมืองที่จะอยู่ รวมทั้งจะซื้อหรือเช่าบ้าน: เลือกย่านที่อยู่ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ แทนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทันทีที่มาถึง ลองเช่าดูก่อนเพื่อให้คุณมีเวลาปรับตัว
- เปิดบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ: เปิดบัญชีธนาคารออสเตรเลีย และโอนเงินจากประเทศต้นทางของคุณ
- หางานทำ: ศึกษาเกี่ยวกับระบบการจ้างงานในออสเตรเลีย รวมทั้งวิธีการหางาน การยื่นใบสมัคร สิทธิประโยชน์และตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการ
- เตรียมการศึกษาให้ลูกของคุณ: พาลูกไปสมัครเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ยกเว้นในกรณีที่จะสอนเองจากที่บ้าน
- ทำความเข้าใจระบบรักษาพยาบาลในออสเตรเลีย: ศึกษาการบริการของ Medicare รวมทั้งประโยชน์ของการใช้ประกันเอกชน
- ศึกษาตัวเลือกการเดินทางในพื้นที่ของคุณ: ใช้บริการขนส่งสาธารณะออสเตรเลียที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าว่าคุณมีใบขับขี่ที่ใช้ได้: ตรวจสอบข้อกำหนดการขับขี่ในรัฐของคุณ รวมทั้งการที่คุณต้องขอเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ออสเตรเลียหรือไม่
- ศึกษาเกี่ยวกับอดีตและปัจจุบันของออสเตรเลีย: ทำความเข้าใจประเทศแห่งนี้มากขึ้น โดยศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรม ค่านิยม ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของออสเตรเลีย
- จองบริการจากบริษัทขนย้ายระหว่างประเทศ: หาบริษัทขนส่งต่างประเทศที่ไว้วางใจได้ เพื่อส่งสัมภาระของคุณไปยังบ้านหลังใหม่